“มายแคชแบ็ก”ผนึกยักษ์อีคอมเมิร์ซจุดพลุธุรกิจ”เงินคืน”

“myCashback.co” เชื่อมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จ่ายค่าคอมมิสชั่นคืนให้ลูกค้า 100% ดึง “เถาเป่า-โอมิเซะ” เสริมแกร่งก่อนสยายปีกทั้งทั่วภูมิภาคปี”61 ปักธง 5 ปีขึ้นเบอร์ 1 ในอาเซียน ชูจุดเด่น “ได้เยอะได้เร็ว”

นายณภัทร สืบสาย กรรมการผู้จัดการ myCashback.co สตาร์ตอัพสัญชาติไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยปีนี้มูลค่าถึง 2 ล้านล้านบาท เชื่อว่าจะโตอีก 19% ปีนี้ ขณะที่ธุรกิจเงินคืนยังไม่มา มีคนรู้จักแค่ 10% จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ “เว็บเงินคืน” โดยเป็นผู้ช่วยผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้คุ้มค่ามากขึ้น โดยทุกครั้งที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่าน myCashback.co จะได้รับเงินคืนจากทุกยอดซื้อ ซึ่งเป็นเงินที่มาจากค่าคอมมิสชั่นที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ จ่ายให้ผู้ที่นำลูกค้ามาซื้อสินค้าในแพลตฟอร์ม ปกติเฉลี่ย 7-8% ของยอดซื้อ

“myCashback.co เป็นนายหน้าเชื่อมระบบเข้ากับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ด้วยแนวคิดว่า จ่ายค่าคอมมิสชั่นคืนให้ลูกค้า 100% เพื่อให้ลูกค้าคุ้มค่าในการซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุด มีเป้าหมายเป็นเว็บไซต์ที่ให้เงินคืนแก่ลูกค้าได้มากและเร็วที่สุดในโลก เนื่องจากเว็บเงินคืนรายใหญ่ แบ่งค่าคอมมิสชั่นเป็นเงินคืนให้ลูกค้ามากสุดแค่ 50% กว่าจะคืนใช้เวลา 30-90 วัน แต่เราคืน 100% ใช้เวลา 1 วัน”

ขณะที่โมเดลรายได้ของเว็บไซต์มาจากค่าธรรมเนียม 10% เมื่อลูกค้ามียอดเงินคืนสะสมในระบบถึง 300 บาทก็ถอนคืนเป็นเงินสดผ่าน Paypal

“เราเปิดตัวกลางเดือน พ.ย. 2560 มีคนเข้าเว็บไม่กี่ร้อยคน ปัจจุบันมีหมื่นกว่าราย ทำให้เห็นว่าคนสนใจเรื่องความคุ้มค่า ขณะที่สินค้าที่มีให้ซื้อมีครบทุกเซ็กชั่น โดยได้เชื่อมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่เกือบทั้งหมดแล้ว ทั้งลาซาด้า บิ๊กซี เซ็นทรัล โรบินสัน แอดไวซ์ Konvy.com honestbee ออฟฟิสเมท เอไอเอสออนไลน์สโตร์ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ ตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการอันดับ 1 ในอาเซียนภายใน 5 ปี”

สำหรับวิธีการซื้อสินค้าไม่ต่างไป จากการช็อปปิ้งออนไลน์ทั่วไป เแค่เข้าซื้อผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น mycashback.co ลงทะเบียนใช้งาน แล้วเลือกร้านค้าที่จะเข้าไปซื้อรวมถึงใช้โปรโมชั่นส่วนลดได้ตามแคมเปญของแต่ละแพลตฟอร์ม

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีร้านค้าและแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดย Expedia.co.th จะเริ่มในไตรมาส 1 ปี 2561 และ taobao.com จากจีนต้นไตรมาส 2 โดยบริษัทลูกของเถาเป่าเข้ามาตั้งโกดังในไทย ทำให้การส่งสินค้าถึงผู้บริโภคเร็วกว่าเดิม

โดยบริษัทจะอำนวยความสะดวกด้านภาษีศุลกากรให้ลูกค้าไม่ต้องยุ่งยากเหมือนการซื้อตรงจากเว็บของเถาเป่า

นอกจากนี้ในไตรมาส 1 ปี 2561 ลูกค้าจะสามารถถอนเงินคืนในระบบออกจากช่องทางอื่นนอกเหนือจาก PayPal โดยจับมือกับอีเพย์เมนต์ในระบบของ “โอมิเซะ” ครอบคลุมทั้งบัญชีธนาคารและอีวอลเลตอื่น ๆ แต่ฟังก์ชั่นที่จะเอาเงินคืนในระบบไปซื้อของได้ ยังไม่อยู่ในแผน เพราะต้องประสานหลายด้าน

ขณะเดียวกันภายในไตรมาส 1 ปีหน้าจะเปิดให้ครบในอาเซียน โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตสูง และยังไม่มีผู้ทำธุรกิจเงินคืนเลย โดยจะมีทีมงานเข้าไปดีลกับแต่ละผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในแต่ละประเทศ

“เป้ามูลค่าการซื้อขายผ่านเว็บไว้ที่ 50 ล้านบาท ยอดคนใช้เว็บเพิ่มขึ้น 5 เท่า จากปัจจุบันมีราว 1 หมื่นคนต่อวัน มียอดสั่งซื้อราว 200 คำสั่งซื้อต่อวัน ยอดซื้อต่อบิลอยู่ราว 200 บาทต่อครั้ง คาดว่าจะคืนทุนได้ใน 4-5 ปี”