
กลุ่มสามารถโชว์เป้ารายได้ทั้งปี 1.4 หมื่นล้าน รับเปิดประเทศ มั่นใจทุกสายธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่แล้ว ดัน “สามารถเทลคอม” คว้างานโครงการใหม่กว่าหมื่นล้านหลังไตรมาสแรกเซ็นสัญญาไปได้แล้วกว่า 3,000 ล้านบาท
วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถในช่วงไตรมาสแรก/2565 เป็นไปตามคาด โดยมีผลงานการติดตั้งและส่งมอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าประเภทสุราแช่ชนิดเบียร์ ที่ผลิต และจำหน่ายในประเทศ มูลค่าโครงการรวม 8,000 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
และเริ่มให้บริการพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นมา ทำให้บริษัททยอยรับรู้รายได้ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ราว 600 ล้านบาท ขณะที่สายธุรกิจ U-Trans โดยเฉพาะ CATS ส่งสัญญาณบวกชัดเจน จากจำนวนเที่ยวบินไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้นถึง 38% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน ส่วนสายธุรกิจ ICT ก็มีแนวโน้มเติบโต โดยปีนี้ตั้งเป้าชนะโครงการรวม 11,000 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรก เซ็นสัญญาใหม่ไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้มี Backlog ณ สิ้นไตรมาสแรกถึง 8,000 ล้านบาท
โดยบริษัทมุ่งนำเสนอ 4 โซลูชั่นมาแรง 1. Financial and Banking Solution ที่จะมีการขยายสาขา Smart Branch Outsourcing เฟสต่อไป 2. Solutions for Utility Sector ที่จะมีการจัดหา e-Meter สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยทั่วประเทศ และการขยายฐานลูกค้า ERP ไปยังกลุ่ม Utility Sector อื่นๆ 3. E- Payment Solution ที่จะนำเสนอแพลตฟอร์มที่เชื่อมทุกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Walle)t รองรับทุกแพลตฟอร์มชำระเงินได้ทุกร้านค้า และ 4. Cyber-Security Solution ที่จะยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่ม Utility กลุ่มธนาคารและอื่นๆ
สำหรับสายธุรกิจ Samart Digital (SDC) ได้กระจายความเสี่ยงและสร้างสมดุลย์ให้กับพอร์ตธุรกิจด้วย 2 สายธุรกิจ คือ Digital Trunk Radio System (DTRS) ที่สร้างรายได้ประจำจากค่าใช้บริการรายเดือนและค่าเช่าเครื่องลูกข่าย ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการจาก 2 หน่วยงาน คือกระทรวงมหาดไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 85,000 เครื่อง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 115,000 เครื่องในสิ้นปีนี้
ส่วนธุรกิจ Digital Content & Service จะเน้นสร้างรายได้เติบโตตาม Digital Trend & Lifestyle ของคนยุคใหม่ ผ่าน Content และบริการสายมู (เกี่ยวกับความเชื่อ), กีฬา และ Lifestyle ผ่านแอปพลิเคชั่น เช่น แอป Horoworld โดยบริษัทได้จัดตั้งบริษัท LUCKY Heng Heng ขึ้น ที่ใช้รูปแบบการระดมทุนและการบริหารงานแบบสตาร์ตอัพเพื่อให้เกิดความคล่องตัว และรองรับการทำงานของคนรุ่นใหม่
ภายใต้บริษัทนี้จะดูแลธุรกิจสายมู คือ Horoworld Mobile Application ซึ่งเป็น One stop Service ด้านโหราศาสตร์และความเชื่อ มีบริการดูดวงสดออนไลน์ ดูโหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย และฤกษ์มงคลต่างๆ และเร็วๆนี้ จะเปิดตัวอีก
แอปพลิเคชั่น “Thai merit”ช่วยให้สายบุญไหว้พระ บริจาคเงิน แก้บน เสี่ยงเซียมซี ตลอดจนการบูชาวัตถุมงคล ได้กับทุกวัด ทุกสถานที่ศักด์สิทธิ์ ผ่านช่องทางออนไลน์
นายวัฒน์ชัยทิ้งท้ายด้วยว่า นอกจากความพยายามในการฟื้นฟูธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์โรคระบาดแล้ว บริษัทได้ศึกษาและมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืน และได้หาแนวทางในการลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงิน และเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุน เช่น ปีที่ผ่านมา ได้ออกหุ้นกู้ และกำลังศึกษาแนวทางจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure Fund เพื่อระดมทุนมาใช้ในโครงการ DTRS ด้วย