เศรษฐกิจภูมิภาค

“หนองคาย” เตรียมเต็นท์-ปรับพื้นที่ พร้อมรับนักท่องเที่ยวชมทะเลหมอก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดหนองคายว่า ชาวบ้านในเขตตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ปรับพื้นที่และกางเต็นท์เพิ่ม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาสัมผัสธรรมชาติ 2 ฝั่งโขงไทย-ลาว และชมทะเลหมอกในหลายจุดในเขตตำบลบ้านม่วง ซึ่งช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงจนเกิดทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงติดต่อกันหลายวัน ทำให้นักท่องเริ่มเดินทางมาชมทะเลหมอกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่พักหลายแห่งถูกจองยาวข้ามปี


ทั้งนี้ บรรยากาศการท่องเที่ยวที่จังหวัดหนองคายคึกคักต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่เริ่มเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคโลก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวไม่ขาดสาย หลังชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ที่เกิดขึ้นถึง 2 วันติดต่อกัน นักท่องเที่ยวบางส่วนก็ได้มุ่งหน้าไปสัมผัสธรรมชาติ 2 ฝั่งโขงไทย-ลาวและชมทะเลหมอกกันต่อ โดยเฉพาะในเขตบ้านม่วง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จังหวัดหนองคาย


นอกจากนี้รีสอร์ทส่วนใหญ่อยู่ติดริมแม่น้ำโขงเริ่มมีผู้เข้าพักแล้ว เต็นท์ที่อยู่ริมโขง หรือสถานที่สามารถมองเห็นแม่น้ำโขง ซึ่งโอบล้อมด้วยภูเขา 2 ฝั่งไทย-ลาว นักท่องเที่ยวก็นิยมเข้าพักเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านมีการปรับพื้นที่และกางเต็นท์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเขตอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ส่วนใหญ่ต้องการจะได้พักผ่อนและสัมผัสธรรมชาติทิวทัศน์แม่น้ำโขงไทย-ลาว และทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว ก่อนที่จะเดินทางไปชมทะเลหมอกที่สามารถชมได้หลายจุดในวันรุ่งขึ้น ทั้งที่ภูห้วยอีสัน , ภูหนอง , ภูผาดัก และภูโล้น ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตตำบลบ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย


สำหรับค่าที่พักที่เป็นเต็นท์จะอยู่ที่ 350 – 450 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดเต็นท์ ส่วนค่าเช่าพื้นที่เพื่อกางเต็นท์จะอยู่ที่ 100 – 150 บาท ส่วนที่พักที่เป็นรีสอร์ทจะอยู่ที่ 600 – 800 บาท รวมเฉพาะในเขตตำบลบ้านม่วงมีที่พักและเต็นท์สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 1,000 คน ซึ่งขณะนี้ที่เต็นท์และที่พักในเขตตำบลบ้านม่วง และในตัวอำเภอสังคม โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดถูกจองล่วงหน้าไปจนถึงปีใหม่เลยทีเดียว

 

ทางด้าน นายศิริศักดิ์ เบ้าแก้ว นายก อบต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย กล่าวถึงความพร้อมในการเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาชมทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงไทย-ลาว ในเขตตำบลบ้านม่วง ว่า ขณะนี้ ทางผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านก็ได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมแล้ว โดยเริ่มปรับปรุงพัฒนาเส้นทางขึ้นแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางขึ้นบนภูห้วยอีสัน ภูหนอง ภูโล้น และภูผาดัก ที่เป็นจุดชมทะเลหมอก นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงจุดที่นักท่องเที่ยวรอชมทะเลหมอก ทั้งการปรับพื้นที่ ทำราวกั้นในจุดที่อันตราย และทำป้ายที่มีสีสันสวยงามตามจุดต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ถ่ายรูป ซึ่งปีนี้มีการปรับพื้นที่ชมทะเลหมอกที่ภูห้วยอีสัน มีการปรับพื้นที่จุดชมทะเลหมอกถึง 3 จุด โดยทำเป็นระดับ ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 800 – 1,000 คน มากขึ้นจากเดิมถึงเท่าตัว

นายก อบต.บ้านม่วง กล่าวต่อไปอีกว่า ในส่วนของรถซิ่ง (รถไถนาดัดแปลง) ที่ใช้ในการขนส่งนักท่องเที่ยวขึ้นชมทะเลหมอกบนภูห้วยอีสันนั้นจะมีลานจอดอยู่ที่วัดแก้วเสด็จชัยมงคลเพียงจุดเดียว ซึ่งปีนี้ชาวบ้านมีการรวมกลุ่มบริหารจัดการกันอย่างเป็นระบบ นำรถซิ่งมารวมตัวออกมาให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 40 คัน มีคณะกรรมการควบคุมดูแลทั้งการขายตั๋วโดยสาร การจัดการจราจร และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ส่วนผู้ที่จะขึ้นชมทะเลหมอกที่ภูหนอง ก็จะมีรถรอให้บริการที่วัดบ้านหนอง และผู้ที่จะขึ้นชมทะเลหมอกที่ภูผาดักนั้น ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะจะต้องเดินขึ้นบนภูเขาที่ชันเป็นระยะทางเกือบ 1 กม. และจะต้องมีชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทางเป็นผู้นำทางขึ้นชมเท่านั้น