“บิ๊กตู่” ฝ่าฝนพบชาวนครศรีฯ เตือนให้ติดตามน้ำท่วมแนะปรับเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาไม่เอาแบบเดิมๆ

วันนี้ (3 พ.ย.60) ที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมอบนโยบายและติดตามป้องกันปัญหาน้ำท่วมให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเดินทางไปถึงนายเกรียงศักดิ์ รักศรีทอง นายอำเภอปากพนัง เป็นผู้กล่าวรายงาน ในขณะที่มีประชาชนจำนวนกว่า 2.5 พันคน มาให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี

โดยนายอำเภอปากพนัง กล่าวรายงานว่า อำเภอปากพนังมี 17 ตำบล ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบเกษตรกรรมและประมง เมื่อหน้ามรสุมมักได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด โดยทางอำเภอได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากลุ่มน้ำปากพนังเป็นพื้นที่รับน้ำจากโซนเหนือของจังหวัดที่ไหลลงมารวมในลุ่มน้ำปากพนัง ท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ทำให้รับผลกระทบเป็นเวลานานในช่วงมรสุม

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบเรือท้องแบน 11 ลำ เพื่อใช้ในช่วงเกิดอุทกภัย และมอบเงินให้ผู้สูงอายุ และทุนการศึกษาให้กับนักเรียนจำนวน 100 ทุน นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะพี่น้องประชาชนที่มาให้การต้อนรับ โดยย้ำเตือนให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด และพี่น้องประชาชนต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์โลกด้วย

วันนี้ตนได้นำรัฐมนตรีซึ่งเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงหลักๆ เพื่อนำมาหารือร่วมกันในการแก้ปัญหาให้กับชาวภาคใต้ร่วมกันซึ่งทุกอย่างจะต้องมีการปรับเปลี่ยนโดยปัญหามีอยู่ว่าทุกคนต้องร่วมมือ จะให้ตนใช้อำนาจอย่างเดียวคงไปไม่ได้ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย ตนอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการแก้ปัญหานั้นตนจะเน้นแก้ปัญหาแบบยั่งยืนไม่ใช่แก้ปัญหาแบบเดิมๆ ซึ่งก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีก อยากให้ประชาชนเข้าใจด้วย ปัญหาของปากพนังนั้นต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาที่มีเรื้อรังยาวนานมีการบุกรุกพื้นที่ประชากรมีมากขึ้น การแก้ปัญหาก็จะต้องแก้อย่าให้กลับมามีปัญหาเหมือนเดิมซ้ำซากเช่น น้ำท่วมซ้ำซาก, ภัยแล้งซ้ำซาก ทำอย่างไรอย่าให้เป็นปัญหาซ้ำซากเหล่านี้เป็นต้น

ซึ่งที่ตนเดินทางมาวันนี้ก็เพื่อจะมารับทราบปัญหาจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งภาคใต้ เพื่ออย่าให้เกิดน้ำท่วมและประชาชนเดือดร้อนเหมือนช่วงปลายปีที่ผ่านมา วันนี้พายุเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เดือนตุลาคม ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม 23 จังหวัด เหลือเพียง 6 จังหวัด ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ต่อไปนี้ตนจะดูเป็นรายจังหวัดๆ ไปเพื่อแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ที่อาจจะไม่เหมือนกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำลังพูดพบปะประชาชนนั้นได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และท่านได้พูดติดตลกว่า ระหว่างตนกับฝนอะไรจะหยุดก่อน ฝนหรือตนจะหยุดพูด ท่ามกลางเสียงปรบมือของชาวบ้านดังกึกก้อง จากนั้นนายกรัฐมนตรีก็ได้เดินทางไปเยี่ยมการจัดนิทรรศการก้าวตามรอยพ่อ และรับมอบสิ่งของจากประชาชนก่อนจะประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ต่อไป

ทางด้านของนายพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนังได้ระบุว่า วันนี้จะขอให้นายกฯช่วยทำเขื่อนที่ปากพนังให้เพื่อป้องกันเรื่องน้ำ เพราะที่ผ่านมาพื้นที่ปากพนังจะเป็นพื้นที่รับน้ำจากโซนตัวเมืองโดยน้ำจะขังอยู่ในพื้นที่นานเป็นเดือนกว่าจะระบายลงสู่ทะเลสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเขตลุ่มน้ำเป็นอย่างมากและนานมาแล้ว ซึ่งการเสนอจะเป็นอย่างไรก็ต้องแล้วแต่ท่านนายกฯ

สำหรับวันนี้ได้มีประชาชนจำนวนมากได้มีการนำของมามอบแด่นายกฯโดยจะเป็นผลิตภัณฑ์ในพื้นที่จำพวกผลหมากรากไม้ต่างๆ ซึ่งสิ่งของทุกอย่างได้มีการตรวจอย่างละเอียดจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยคณะนายกฯ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มตัวแทนชาวสวนยางได้มารอเพื่อยื่นหนังสือให้นายกฯช่วยเหลือเรื่องของยางพาราตกต่ำด้วย