อินเด็กซ์ ปรับแผน เดินเกมใหม่…ค้าปลีก

แนวโน้มฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่สะท้อนจากการเติบโตของจีดีพีและการท่องเที่ยวในปีนี้ ทำให้หลายธุรกิจเริ่มขยับตัวปรับกลยุทธ์ชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน หนึ่งในนั้นคือ เครือ “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ที่นอกจากห้างเฟอร์นิเจอร์แล้วยังมีธุรกิจเชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า “เพาเวอร์วัน” รวมถึงธุรกิจบริหารพื้นที่ค้าปลีก “เดอะวอล์ค” และลิตเติลวอล์ค ซึ่งกำลังเดินหน้าปรับตัวรับศึกทั้งกับผู้เล่นในวงการเฟอร์นิเจอร์ ค้าปลีก และอีคอมเมิร์ซในปีนี้

วันสต็อปช็อปปิ้ง

“เอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ” รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงทิศทางปี 2561 ของ “เพาเวอร์วัน”, “เดอะวอล์ค” และโมเดลน้องใหม่ “ลิตเติลวอล์ค” ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารว่า ปีนี้จะเดินหน้าปรับพื้นที่และรูปแบบการขาย-โปรโมชั่นของเพาเวอร์วัน ย้ำจุดขายด้านวันสต็อปช็อปปิ้ง เพื่อรับมือการแข่งขันทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ส่วนธุรกิจบริหารพื้นที่ค้าปลีกมุ่งปรับไลน์อัพร้านค้าในศูนย์ชูภาพลักษณ์แหล่งรวมบริการสุขภาพและการศึกษา พร้อมขยายสาขา “ลิตเติลวอล์ค” เพิ่มอีก 1 แห่ง

สำหรับเซ็กเมนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้มีแม้จะมีแนวโน้มเติบโตจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การขยายตัวของทาวน์โฮมย่านชานเมืองและอีเวนต์อย่างฟุตบอลโลก แต่ต้องรับมือการแข่งขันราคาดุเดือดกับอีคอมเมิร์ซ เช่นเดียวกับการแข่งขันระหว่างร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ด้วยกัน ซึ่งจะเน้นชูวันสต็อปช็อปปิ้ง ตอบโจทย์ผู้บริโภคปัจจุบันซึ่งต้องการความสะดวกสูงสุดปรับไลน์อัพตามใจลูกค้าเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับเพาเวอร์วัน เตรียมปรับพื้นที่ขายและไลน์อัพสินค้าเน้นโซลูชั่นครบวงจรจบในที่เดียว ตอบโจทย์ความรวดเร็วในการช็อปปิ้ง โดยตั้งแต่ไตรมาส 2 จะนำเฟอร์นิเจอร์ อาทิ ชั้นวางทีวี, โซฟาและอื่น ๆ เข้ามาจัดแสดงร่วมกัน สร้างโอกาสขายแบบวันสต็อป

หลังจากการปรับไลน์อัพสินค้าตามดีมานด์ของลูกค้าแต่ละสาขาในไตรมาส 1 พร้อมกับจัดโปรโมชั่นร่วมระหว่างเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ ซื้อทีวีแถมโซฟา หรือกลับกัน รวมถึงโปรโมชั่นจัดชุดสินค้าสำหรับคอนโดฯโดยเฉพาะ, บุฟเฟต์, ซื้อหนึ่ง แถมหนึ่ง และผ่อน 0% นาน 24-36 เดือน เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจด้วยความคุ้มค่าและรับมือการแข่งขันราคา

นอกจากนี้ยังมีแคมเปญไฮไลต์ “แชะแอนด์ช็อป” โดยติดตั้งป้ายโฆษณาที่ในร้านค้าพันธมิตร ซึ่งผู้บริโภคสามารถถ่ายภาพแล้วนำมาแสดงเป็นส่วนลดหรือส่งต่อให้เพื่อนใช้ก็ได้เช่นกัน เพื่อกระตุ้นการรับรู้และแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เริ่มตั้งแต่ 22 ม.ค. ไปจนถึงสิ้นปี 2561 รวมถึงขยายสาขาอีก 2 แห่ง เป็น 28 สาขา ทุกสาขาของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์คาดว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้ยอดขายเติบโตได้ 12-15% หรือประมาณ 1,120-1,150 ล้านบาทในปีนี้ ก้าวกระโดดจากการเติบโตเพียง 2% เมื่อปี 2560

ปรับพื้นที่ตอบโจทย์ค้าปลีกด้านธุรกิจบริหารพื้นที่ค้าปลีกนั้น “เอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ” กล่าวว่า เตรียมเปิดศูนย์การค้า “ลิตเติลวอล์ค” แห่งที่ 2 ในพัทยา ใกล้มอเตอร์เวย์ มีพื้นที่เช่าประมาณ 3,000-4,000 ตร.ม. ใหญ่กว่าสาขาบางนาเล็กน้อย และที่จอดรถ 150 คัน ชูจุดเด่นด้านความสะดวกกว่าห้าง ช่วยให้หมุนเวียนลูกค้าจำนวนมากในเวลาสั้น ๆ เฉลี่ยประมาณ 70 นาที/คน ด้วยร้านอาหารที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม บริการต่าง ๆ รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต

ขณะเดียวกันเดินหน้าปรับไลน์อัพร้านค้าใน “เดอะวอล์ค” ทั้งสาขาราชพฤกษ์ และเกษตรนวมินทร์ เน้นกลุ่มสุขภาพและการศึกษา เช่น ฟิตเนส คลินิก และโรงเรียนสอนพิเศษ เป็นต้น มุ่งตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่มีจำนวนมากในทั้ง 2 พื้นที่ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่มักเน้นจับกลุ่มวัยรุ่นด้วยจุดขายด้านความบันเทิงและอาหารการกิน โดยพักเรื่องการขยายสาขาเอาไว้ก่อน

“ปัจจุบันถือเป็นช่วงขาลงของคอมมิวนิตี้มอลล์ แต่เชื่อว่าการมีจุดขายเฉพาะด้านระดับนิชมาร์เก็ตของลิตเติลวอล์ค และเดอะวอล์ค จะทำให้สามารถชิงความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งและเติบโตต่อไปได้”

การจัดทัพให้พร้อมเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ