ไทยเบฟฯยึดน้ำเมาอาเซียน ทุ่ม 2 แสนล้านปิดบิ๊กดีลเสริมพอร์ตธุรกิจ

ไทยเบฟฯเร่งเสริมแกร่งพอร์ตธุรกิจในอาเซียน ทั้งโนว์ฮาวการตลาด-โลจิสติกส์ กำลังคน หลังกวาดเบียร์เวียดนาม วิสกี้เมียนมา เข้ากระเป๋าขึ้นแท่นอันดับ 1 ตลาดเบียร์ภูมิภาค หวังต่อยอดรุกระดับเอเชีย พร้อมบาลานซ์รายได้น็อนแอลกอฮอล์ ลุยผุดเคเอฟซี 2 ปี 50 สาขา

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2561 นี้เน้นเสริมศักยภาพการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจในอาเซียนที่บริษัทได้ถือหุ้นใหญ่อยู่ อาทิ เอฟแอนด์เอ็น แกรนด์รอยัลกรุ๊ป ผู้ผลิตวิสกี้รายใหญ่ของเมียนมา และไซ่ง่อน เบียร์ หรือซาเบโก้ ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ของเวียดนาม ซึ่งบริษัทซื้อหุ้น 75% และ 53.6% ตามลำดับ เมื่อไตรมาสแรกของปีงบฯ 2561 (ต.ค.-ธ.ค. 2560) เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับรุกตลาดระดับเอเชียผ่านข้อตกลงการค้าเสรีต่าง ๆ ทั้งที่มีอยู่แล้ว และอาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น อาเซียนบวก 3, บวก 6 เป็นต้น

โดยยุทธศาสตร์หลัก ๆ จะเน้นการแลกเปลี่ยนโนว์ฮาว เครือข่ายกระจายสินค้า พันธมิตรท้องถิ่นและตัวสินค้า รวมถึงปั้นบุคลากรหลายด้านโดยเฉพาะไอที เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาวสำหรับรุกตลาดเอเชียและโลกในอนาคต

“ไตรมาสแรกปีงบฯ 2561 บริษัทใช้เงินไปกว่า 2 แสนล้านบาท ในการลงทุนเพื่อเข้าไปถือหุ้นในธุรกิจต่าง ๆ และได้ธุรกิจมาเพิ่ม 4 แบรนด์ และขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านปริมาณของตลาดเบียร์อาเซียน ด้วยส่วนแบ่ง 27% จากปริมาณรวม 4 พันล้านลิตร ตามข้อมูลของยูโรมอนิเตอร์ จึงต้องเริ่มเสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอเพื่อลุยตลาดที่ใหญ่กว่า เช่น ระดับเอเชียและโลก”

นอกจากนี้ยังได้บาลานซ์รายได้ระหว่างธุรกิจแอลกอฮอล์และน็อนแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเป็น 75% ต่อ 25% ตามลำดับ จากการถือหุ้นซาเบโก้ และแกรนด์รอยัลฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างแผนธุรกิจเพื่อให้สัดส่วนกลับมาเป็น 50% ตามโรดแมป 2020 ที่จะเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มครบวงจรของอาเซียน

นายฐาปนกล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจอาหาร บริษัทก็จะมีเพียงการลงทุนต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโต เช่น เคเอฟซี จะขยายสาขาอีก 20 สาขาในปีนี้ และอีก 30 สาขา ในปี 2562 จากเดิมที่ไทยเบฟมีเคเอฟซีกว่า 252 สาขา และพอท มินิสทรี (Pot Ministry) ร้านอาหารของบริษัท สไปซ์ออฟเอเชีย (Spice of Asia) อาทิ Cafe Chilli, Chilli Thai Restaurant, Eat Pot และ Pot Ministry รวมทั้งหมด 10 สาขา ช่วยให้ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว ยอดขายเพิ่มขึ้น 42.3%

“คาดว่าไตรมาส 2 ของปีงบฯ รายได้จะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด จากการเริ่มรับรู้รายได้ของซาเบโก้ หลังไตรมาสแรกของปีงบฯ 2561 บริษัทมีรายได้ 4.56 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีรายได้ 4.68 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.7 พันล้านบาท เนื่องจากดีลเลอร์เร่งสต๊อกสินค้ารับมือมาตรการภาษี และมีการซื้อกิจการมูลค่าสูง” นายฐาปนกล่าว