เปิดแผน 5 ปี “โรบินสัน” ยึด 59 สาขาทั่วปท.

เปิดแผนลงทุน “โรบินสัน” 1.5 หมื่นล้าน ปูพรม 11 สาขาภายใน 5 ปี โฟกัสเขตเศรษฐกิจ รองรับตลาดอนาคต ชี้ชลบุรีตลาดใหญ่เปิดได้ไม่อั้น เตรียมเปิดสาขาที่ 3 ดักทุกกำลังซื้อ ปี 2022 สปีดครบ 59 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ค้าปลีก 1.2 ล้าน ตร.ม.

นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนของกลุ่มโรบินสันยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง โดยแผน 5 ปีจากนี้จะเปิด 11 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศด้วยงบฯลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2022 โดยเฉพาะโมเดลโรบินสันไลฟ์สไตล์มอลล์ ไซซ์ขนาดย่อม3 หมื่น ตร.ม. จะเป็นหัวหอกหลักในการขับเคลื่อนควบคู่กับการรีโนเวตสาขาเดิมปีละ 3-4 สาขา ให้ทันสมัยสอดรับกับความต้องการใหม่ ๆ ของลูกค้า

ซึ่งทิศทางการลงทุนจะเน้นในทำเลที่มีการเติบโตและขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยเฉพาะในชลบุรี ซึ่งจะเปิดสาขาที่ 3 ช่วงไตรมาส 3 บริเวณด้านหลังนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ หลังจากเปิด 2 สาขาก่อนหน้านี้ที่ศูนย์การค้าแปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี เป็นอาคาร 2 ชั้น พื้นที่ 36,000 ตร.ม. และในช่วงปลายปีจะเปิดอีก 1 สาขา ที่ชัยภูมิ

“ชลบุรีเรามองว่ายังเปิดได้อีกเยอะ เป็นเมืองที่ใหญ่มากและกำลังซื้อดีต่อเนื่อง มีนิคมอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ตั้งอยู่ในจังหวัดและใกล้เคียง ทำให้คนมีรายได้ประจำและมีคนทำงานกว่า 400,000 คน ในนิคมอุตสาหกรรม

อมตะซิตี้ ซึ่งคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในจังหวัดนี้จะดียิ่งขึ้นภายหลังจากการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมแอร์พอร์ตลิงก์มายังภาคตะวันออก และโครงการอื่น ๆ ที่จะทำให้การเดินทางมายังภาคตะวันออกง่ายขึ้น”

ส่วนอีก 1 สาขาในชัยภูมิที่จะเปิดปลายปี ใช้เงินลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท บนพื้นที่ 32,000 ตร.ม. ซึ่งชัยภูมิเป็นจังหวัดที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ และการเกษตร และเป็นจังหวัดที่รัฐบาลมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในปัจจุบันจัดเป็นจังหวัดที่มีโอกาสเติบโตไม่แพ้เมืองหลัก

ควบคู่กับการบริหารแบรนด์สินค้า โดยเดินหน้ารุกตลาดเพื่อสร้างความแตกต่างทางธุรกิจ ด้วยการชูกลุ่มสินค้าที่ทำการตลาดและจัดจำหน่ายโดยโรบินสัน หรือ “กลุ่มสินค้า private label” อาทิ Just Buy (จัสต์ บาย), Payless ShoeSource (เพย์เลสชูซอร์ส), Baby Shop (เบบี้ ช็อป), F.O.F (เอฟ.โอ.เอฟ), Home&Co (โฮม แอนด์ โค) เป็นต้น ที่ผ่านมาสัดส่วนยอดขายกลุ่มนี้อยู่ที่ 11.3%