เคลื่อนทัพ 100 ปี “พานาฯ” “A Better Life, A Better World”

ปี 2561 ยักษ์ใหญ่เครี่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น “พานาโซนิค คอร์ปอเรชั่น” ทำธุรกิจมาครบ 100 ปี ด้วยแบรนด์อิมเมจของการเป็นผู้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เมื่อยุคเปลี่ยน ไลฟ์สไตล์ลูกค้าเปลี่ยน ตลาดเปลี่ยน กลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายการดำเนินธุรกิจ

พานาโซนิคจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างไรในอีก 100 ปีข้างหน้า

ในงานประชุมประจำปี “พานาโซนิค” ที่กรุงโตเกียว Tetsuro Homma ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส Panasonic Corp. กล่าวท่ามกลางนักข่าวที่เข้าร่วมประชุมจากทั่วโลกถึงการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่นอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และสำหรับผู้บริโภค คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, ที่อยู่อาศัย, ธุรกิจยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจ B2B ที่จะเป็น 4 หัวหอกหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรต่อจากนี้

เป้าหมาย คือ การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้นและโลกที่ดีกว่า ด้วยปณิธาน “A Better Life, A Better World” ชีวิตที่ดีกว่า…เพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นปณิธานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2461 ที่ต้องการพัฒนาสินค้าเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้คนและสร้างความก้าวหน้าให้กับสังคม

ปัจจุบัน “พานาโซนิคคอร์ป” ได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกและดำเนินธุรกิจในเครือ 495 แห่ง และบริษัทร่วม 91 แห่งทั่วโลกด้วยยอดขายรวม 7.343 ล้านล้านเยนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560

Tetsuro Homma ฉายภาพธุรกิจต่อจากนี้ด้วยการผนึกพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน เริ่มจากการทำงานร่วมกันระหว่างพานาโซนิคและ NTT DOCOMO ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่นที่มีลูกค้ามากกว่า 75 ล้านรายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีเครือข่ายมือถือ 3G, 4G และ 5G ที่สำคัญที่สุดในโลก

การร่วมมือกันครั้งนี้จะทดลองสร้างแบบจำลองทางธุรกิจและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใช้ IOT และเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายของ LPWA (low power wide area) ประมาณ 1,000 ชุด ซึ่งติดตั้งในโตเกียว โอซากา และจังหวัดชิงะ

ซึ่งการทำงานของ LPWA ดึงดูดความสนใจจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะใช้เทคโนโลยีไร้สายสำหรับ Internet

of Things (IoT) เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านสามารถใช้งาน IoT ได้ด้วยเทคโนโลยี LPWA จะช่วยให้ผู้ใช้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่บ้าน

นอกจากนี้ยังได้ตั้งบริษัท BeeEdge ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ Scrum Ventures จากซานฟรานซิสโก เพื่อสร้างนวัตกรรมและสิ่งใหม่ ๆ เพื่อรับมือการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป รวมถึงการผนึกการทำงานร่วมกับกลุ่มธุรกิจไลน์ และกลุ่ม Nishikawa-Living แบรนด์ญี่ปุ่นระดับตำนานผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้ากลุ่มเครื่องนอนก่อตั้งธุรกิจตั้งแต่ปี 1941

การเติบโตของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอาจไม่พุ่งพรวดเหมือนในอดีต แต่เป้าหมายการเติบโตของกำไรต้องทำให้ได้ 7-8% ต่อเนื่องทุกปี จึงเป็นที่มาของการลงทุนมากขึ้นในกลุ่มยานยนต์

เพื่อปรับปรุงผลกำไรในอนาคต แน่นอนว่าการเริ่มต้นจะเริ่มที่ญี่ปุ่นก่อนเพราะเติบโตและแข็งแรง จากนั้นจะขยายเข้าไปในตลาดจีนและเอเชีย

Tetsuro Homma ฉายภาพของ “พานาโซนิค” ในอนาคต ว่า วันนี้อยากให้ลูกค้าเห็นคุณค่าใหม่ ๆ ของพานาโซนิคไม่ใช่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เอเชีย จีน อินเดีย เป็นกลุ่มตลาดยุทธศาสตร์ที่อยากจะขยายออกไป

เช่นเดียวกับ “ไดเร็กชั่น” ที่จะจับมือกับพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ เพื่อเปิดตลาดใหม่ ๆ ซึ่งจะไปต่างประเทศมากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มที่ญี่ปุ่นก่อนเป็นการนำร่อง แต่ในประเทศนอกญี่ปุ่นจะเห็นแน่นอนหลังจากที่ 2 ปีแรกจะเริ่ม “ไอโอที” ในตลาดญี่ปุ่นก่อน

สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอาจเป็นตลาด “เรดโอเชียน” แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่เติบโตและทำกำไรให้พานาโซนิคสูงสุด ซึ่งเป้าหมายก็อยากจะยืนให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งต้องค่อย ๆ เติบโตและยั่งยืน ขณะที่กลุ่มยานยนต์ถือเป็น “บลูโอเชียน”

“2 ปีก่อนกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านติดลบ แต่ปีที่ผ่านมาเราสามารถทำกำไรได้ และไม่เฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เราสามารถทำกำไรและเติบโตได้ในทั้ง 7 ภูมิภาคทั่วโลก ทำให้สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านยังเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้พานาโซนิคโต”

สอดคล้องกับแม่ทัพ “คาสุฮิโระ สึกะ” ประธานของพานาโซนิค คอร์ปฉายภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนหน้านี้ว่า ช่วง 20 ปีที่ผ่านมาการแข่งขันราคากับจีนและเกาหลีใต้

ดุเดือดขึ้นมาก หากบริษัทโฟกัสเซ็กเมนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนที่ผ่านมาอาจเกิดปัญหาภายในเวลาไม่ถึง

10 ปี ดังนั้นจึงต้องเร่งปรับตัว โดยเลือกแข่งขันเฉพาะในบางตลาดที่สำคัญและได้เปรียบ เช่น ผู้บริโภคคุ้นเคยและเชื่อมั่นในแบรนด์อยู่แล้ว แทนการปูพรมแข่งขันไปทั่วโลก

ขณะเดียวกันเริ่มให้น้ำหนักกับธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตและมีโอกาสพลิกกลับเป็นผู้นำตลาดได้ เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้ผู้เล่นเดิม

ต้องปรับตัว เป็นโอกาสของบริษัทจะก้าวจากผู้เล่นอันดับ 20 ของโลกขึ้นเป็นผู้เล่นหัวแถวเช่นเดียวกับ Denso หรือ Robert Bosch

โดยเฉพาะในด้านแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันพานาโซนิคมีส่วนแบ่งตลาดแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับรถยนต์สูงที่สุดในโลก และยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ

เป็นจุดขาย จึงมั่นใจว่าหากกระแสรถยนต์ไฟฟ้าติดตลาดแล้วจะสามารถสร้างรายได้มหาศาลอย่างแน่นอน

สำหรับความร่วมมือกับเทสล่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐเพื่อผลิตแบตเตอรี่ แม้จะมีปัญหาเรื่องกำลังผลิตจนต้องหยุดสายการผลิตในช่วงแรก แต่ปัจจุบันด้วยการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดสถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครื่องใช้ไฟฟ้าของพานาโซนิคจะเข้ามาช่วยเพิ่มสีสันและความสะดวกในการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีมากมาย

ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการทำงานที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาตลอด 100 ปี ด้วยเป้าหมาย A Better Life, A Better World