เปิดศึกเครื่องดื่ม “หวานน้อย” เล็งขอโลโก้ “ทางเลือก” รับภาษี-เซฟต้นทุน

ยักษ์เครื่องดื่มเปิดศึก “โลว์ชูการ์-แคลอรีต่ำ” รอบใหม่ แห่ปรับสูตรชิงตลาดหวานน้อย-หลบภาษีความหวาน รับเทรนด์สุขภาพสุดฮอต “อิชิตัน” เขย่าสูตรชาเขียว-เย็นเย็น ยักษ์ใหญ่ เตรียมยื่นขอโลโก้ “ทางเลือกเพื่อสุขภาพ” ด้านเครื่องดื่มโถกดในเซเว่นฯไม่พลาด เร่งปรับน้ำตาลให้เหลือไม่เกิน 6 มก./100 มล. หวังเซฟต้นทุน เหตุภาษีจะขยับเพดานขึ้นทุก 2 ปี

ความเคลื่อนไหวของค่ายเครื่องดื่มเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น สำหรับการออกสินค้าใหม่ที่มีการปรับสูตรเครื่องดื่มให้มีความหวานลดลง หรือใช้สารให้ความหวานอย่างอื่นทดแทนน้ำตาล เพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีความหวาน หลังจาก พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2560 กำหนดให้เครื่องดื่มแทบทุกชนิด ต้องเสียภาษีตามปริมาณความหวาน

หากเครื่องดื่มนั้นมีปริมาณความหวานเกินที่กำหนด (6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร) โดยใช้การจัดเก็บแบบอัตราก้าวหน้า หรือหวานมากเก็บมาก และจะขยับอัตราการจัดเก็บเพิ่มขึ้นทุก ๆ 2 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อ 16 กันยายนที่ผ่านมา

อิชิตันดิ้นปรับสูตร

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังจากการปรับราคาขึ้นในกลุ่มชาเขียว จากภาระภาษีทั้ง 2 ขา คือ ขามูลค่า และขาปริมาณ ยอมรับว่ามีผลกระทบกับยอดขายในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาษีขาปริมาณที่จัดเก็บตามความหวานของสินค้านั้น สามารถรับมือได้โดยการปรับสูตรของเครื่องดื่มใหม่

ปีนี้ อิชิตันจะมีการปรับคอนเซ็ปต์สินค้าครั้งใหญ่ ทั้งกลุ่มชาเขียวอิชิตัน และชาสมุนไพรเย็นเย็น โดยชาเขียวจะพัฒนาสูตรใหม่ ลดน้ำตาลให้เหลือน้อยกว่า 6 กรัม/100 มิลลิลิตร โดยการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล โดยสูตรนี้ได้ยื่นขอรับสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ (healthier choice) จากกระทรวงสาธารณสุข และคาดว่าจะทยอยวางตลาดภายในเดือนเมษายนนี้ เริ่มต้นด้วยรสชาติออริจินอล จมูกข้าวญี่ปุ่น เป็นต้น

ส่วนชาสมุนไพรพร้อมดื่มเย็นเย็นจะปรับสูตรใหม่ ด้วยการถอดชาออกเพื่อประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิต และเน้นเฉพาะส่วนผสมจากสมุนไพร เนื่องจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศให้น้ำผัก ผลไม้ และสมุนไพรกว่า 100 ชนิด ได้รับการยกเว้นภาษีในขามูลค่า โดยภายในเดือนเมษายนนี้จะเริ่มเห็นสินค้าใหม่ พร้อมกับการทำตลาดที่มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเซ็กเมนต์หวานน้อยและเครื่องดื่มสมุนไพร

ค่ายใหญ่พร้อมใจชิงหวานน้อย

แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการเครื่องดื่มเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ค่ายเครื่องดื่มรายใหญ่ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าใหม่ ที่เน้นความหวานน้อย แคลอรีต่ำ ออกสู่ตลาดมากขึ้น เพื่อจะอยู่ในเกณฑ์ไม่ต้องเสียภาษีความหวาน ควบคู่กันนี้หลาย ๆ ค่ายต่างก็ให้ความสำคัญกับการยื่นขอใช้สัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” ที่จัดตั้งขึ้นตามโครงการที่มูลนิธิส่งเสริมโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ เพื่อแสดงว่าสินค้านั้น ๆ มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และเกลือ (โซเดียม) ที่เหมาะสม

ที่ผ่านมาหลาย ๆ ค่ายได้ทยอยส่งสินค้าใหม่ในกลุ่มความหวานน้อยเข้าสู่ตลาดเป็นระยะ ๆ อาทิ กาแฟกระป๋อง “เอ็ม เพรสโซ่ ดับเบิล ช็อต” เอสเปรสโซ่ และโรบัสต้า มีปริมาณน้ำตาล 5% ของบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เครื่องดื่มผสมนมเปรี้ยว “คาลพิส แลคโตะ” สูตรน้ำตาลน้อยกว่ารสออริจินัล, รสมิกซ์เบอรี่, ฮันนี่เลมอน ลดน้ำตาลลงจากสูตรเดิม 60% จากบริษัท คาลพิส โอสถสภา จำกัด

รวมถึงเครื่องดื่มอัดลม “100 พลัส” รสแกรปเบอรี่ จากบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เครื่องดื่มผสมสารสกัดจากผักและผลไม้ กลิ่นเกรปฟรุต “อควาเรียส” จากบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด, ลิปตัน ไอซ์ที ชาเขียวมะม่วงกลิ่นใบเตย ของบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด

“เป๊ปซี่แมกซ์ เทสต์” น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล 0 แคลอรี ได้ทำแพ็กเกจจิ้งพิเศษ ล้อไปกับโปรโมชั่นชิงโชคบัตรคอนเสิร์ตบรูโน่ มาร์ส ที่จะจัดการแสดงในวันที่ 30 เมษายน และ 1 พฤษภาคมนี้ หลังจากปีที่แล้วได้ปรับคอนเซ็ปต์ของเป๊ปซี่แมกซ์ เป็นเป๊ปซี่ แมกซ์ เทสต์ และปรับโลโก้ใหม่เพื่อสื่อสารถึงแบรนด์มากขึ้น

เครื่องดื่มโถกดในเซเว่นฯเอาด้วย

นายชนิต สุวรรณพรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มแบบโถกดประเภทชา กาแฟ ฯลฯ ในเซเว่นอีเลฟเว่นระบุว่า ภายในไตรมาส 2 จะพัฒนาเครื่องดื่มแบบโถกดในเซเว่นฯทุกรายการให้มีน้ำตาลน้อยกว่า 6 กรัม/100 มิลลิลิตร เพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีความหวาน โดยเป็นการปรับสูตรใหม่ ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติเข้ามาทดแทนการใช้น้ำตาล โดยยังคงรสชาติที่ใกล้เคียงตัวเดิมมากที่สุด