ธุรกิจโฆษณาอู้ฟู่รับ “เลือกตั้ง” 2 เดือน “ป้าย-ทีวี-ดิจิทัล” สะพัดพันล้าน

ไม่ต้องลุ้น…ได้เลือกตั้งแน่ ธุรกิจโดดรับอานิสงส์ คาดเม็ดเงินสะพัดทั้งระบบกว่า 80,000 ล้านบาท “โฆษณา-ค้าปลีก ค้าส่ง” รับโอกาส มีเดียเอเยนซี่ชี้เฉพาะช่วง 2 เดือนจะมีงบฯโฆษณาเลือกตั้งไหลเข้าสู่อุตฯโฆษณากว่า 1,000 ล้านบาท “ป้าย-สื่อดิจิทัล-ทีวี” รับทรัพย์เต็มกระเป๋า

ทันทีที่มีประกาศกำหนดวันเลือกตั้งออกมา ทำให้บรรยากาศโดยรวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การลงทุนของภาคธุรกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน ช่วงก่อนการเลือกตั้งก็จะมีเม็ดเงินก้อนใหญ่สะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะโฆษณา ค้าปลีกค้าส่ง รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วย

สะพัด 8 หมื่นล้านบาท

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งระดับประเทศและท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นช่วงครึ่งปีแรกนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 80,000 ล้านบาท หรือจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพิ่มขึ้น 0.3% โดย 10 อันดับธุรกิจแรกที่จะได้รับอานิสงส์นี้ ได้แก่ ป้ายโฆษณา คาดมีเงินหมุนเวียน 12,663 ล้านบาท ค้าส่ง

ค้าปลีก 10,264 ล้านบาท การผลิตกระดาษ 5,200 ล้านบาท ภัตตาคารและร้านอาหาร 4,407 ล้านบาท การผลิตน้ำมันปิโตรเลียม 3,813 ล้านบาท การบริการทางด้านธุรกิจ 2,967 ล้านบาท โรงแรมและที่พัก 2,663 ล้านบาท การผลิตไฟฟ้า 1,876 ล้านบาท การผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ 1,586 ล้านบาท และอื่น ๆ 4,651 ล้านบาท

Advertisment

“โฆษณา-ค้าปลีก” รับอานิสงส์

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยกล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวดีขึ้น ประกอบกับมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลาย ๆ ด้านออกมา เมื่อรวมปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นแล้วก็จะทำให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกปีนี้จะโตได้อีก 3% จากตลาดค้าปลีกโดยรวมที่มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท

เช่นเดียวกับแหล่งข่าวระดับสูงจากอุตสาหกรรมโฆษณา คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้จะมีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดในอุตฯนี้กว่า 1,000 ล้านบาทในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แค่ 2 เดือน อีกทั้งจะทำให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศจะดีขึ้น ทั้งในแง่ของความเชื่อมั่นและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ซึ่งความชัดเจนทางการเมืองนี้จะทำให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ หันกลับมาลงทุนและใช้งบฯโฆษณาผ่านสื่อเพิ่มขึ้น กระตุ้นให้ภาพรวมอุตฯโฆษณาปีนี้โตขึ้นตามไปด้วย

“เม็ดเงินโฆษณาเลือกตั้งจะไม่ถูกใช้ผ่านมีเดียเอเยนซี่โฆษณารายใหญ่ แต่เป็นการซื้อโฆษณาโดยตรงจากเจ้าของสื่อ ทำให้การเก็บข้อมูลไม่ครอบคลุมทั้งหมด อีกทั้งการเลือกตั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก เช่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สถานที่ รถแห่ โรงแรมที่พัก ซึ่งเม็ดเงินเหล่านี้ก็จะกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีกทาง”

Advertisment

อย่างไรก็ตาม คาดว่าป้ายโฆษณาจะเป็นสื่อหลักที่ได้รับอานิสงส์นี้ ตามด้วยทีวี วิทยุที่สามารถเข้าถึงคนในวงกว้างได้ทั่วประเทศ เช่นเดียวกันสื่อดิจิทัลคาดว่าจะเป็นอีกช่องทางสำคัญในการโปรโมตนโยบายของพรรคการเมืองใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจำนวนมากด้วย ดังนั้น คาดว่าการใช้งบฯโฆษณาเลือกตั้งครั้งนี้จะถูกกระจายเข้าสู่ทุกสื่อมากขึ้น

“รูปแบบการโฆษณาของพรรคการเมืองครั้งนี้จะเปลี่ยนไป โดยจะเป็นมากกว่าแค่โฆษณา แต่เป็นการแทรกนโยบายของพรรคการเมืองผ่านคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสื่อออนไลน์สามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีและเจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศระเบียบและประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวม 9 ฉบับออกมาแล้ว โดยสรุปหลักเกณฑ์หาเสียงเลือกตั้งที่พรรคการเมืองและผู้สมัคร ส.ส.สามารถทำได้ คือ แจกเอกสาร วีดิทัศน์เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในเขตชุมชนสถานที่ต่าง ๆ ได้ ใช้รถแห่ จัดสถานที่เพื่อหาเสียงได้ รวมถึงการหาเสียงผ่านจดหมาย สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ยูทูบ แอปพลิเคชั่น อีเมล์ เอสเอ็มเอส และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทได้ โดยพรรคการเมืองสามารถหาเสียงเลือกตั้งผ่านวิทยุได้ไม่เกิน 5 นาทีต่อพรรค และทีวี ได้ไม่เกิน 10 นาที กำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบเขตเลือกตั้งแต่ละคนใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 35 ล้านบาท

กำลังซื้อ-ความเชื่อมั่นพุ่ง

นายณรงค์ ตรีสุชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนท์สุ (ประเทศไทย) จำกัด มีเดียเอเยนซี่ให้มุมมองกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รูปแบบการโฆษณาของพรรคการเมืองครั้งนี้จะเปลี่ยนไป โดยโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์มากกว่าแมสมีเดีย ดังนั้น เม็ดเงินส่วนนี้ก็จะไม่ไหลเข้าอุตฯเพราะเป็นการซื้อตรงจากเจ้าของสื่อ แต่อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่ดีขึ้นจะทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาปี”62 โตขึ้น 4-5% จากปี 2561 เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจดีขึ้น

สอดรับกับนายสงกรานต์ เศรษฐสมภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปับลิซีส กรุ๊ป ประเทศไทย มีเดียเอเยนซี่รายใหญ่กล่าวว่า งบฯโฆษณาเลือกตั้งอาจจะไม่ถูกใช้ผ่านสื่อหลัก เช่น วิทยุ ทีวี มากนัก เพราะเงินก้อนใหญ่ถูกกระจายไปในส่วนอื่น ๆ เช่น ลงพื้นที่หาเสียง รถแห่มากกว่าที่ไหลเข้าสู่อุตฯโฆษณา แต่ความชัดเจนทางการเมืองนี้จะทำให้บรรยากาศโดยรวมของประเทศดีขึ้น ทั้งกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ธุรกิจหันกลับมาใช้งบฯโฆษณามากขึ้น

เดินตามรอยเลือกตั้งอเมริกา

นางสาวโศรดา ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริลเลียน แอนด์ มิลเลียน จำกัด ดิจิทัลเอเยนซี่กล่าวว่า ภาพรวมอุตฯโฆษณาปีนี้จะมีตัวเลขเพี้ยนไป เนื่องจากจะมีเม็ดเงินจากการเลือกตั้งเพิ่มเข้ามา โดยเฉพาะสื่อดิจิทัลที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนการเลือกตั้งอเมริกาปี 2559 ที่มีการใช้สื่อใหม่อย่างโซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นฐานสำคัญในการหาเสียงมากขึ้น เพราะสอดรับกับพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคยุคนี้ ประกอบกับจุดแข็งสื่อดิจิทัล คือ สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดยสามารถเลือกทาร์เก็ตได้อย่างชัดเจนว่า เจาะกลุ่มผู้หญิง ผู้ชาย อายุเท่าไร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการวางกลยุทธ์ของแต่ละพรรคการเมือง

“การใช้งบฯเลือกตั้งผ่านสื่อดิจิทัลนั้น ไม่สามารถระบุมูลค่าได้ชัดเจน เพราะไม่สามารถเก็บข้อมูลในระบบได้ เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อตรงจากเจ้าของแมสมีเดีย โซเชียลมีเดียเอง และทางสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ก็ไม่ได้มีการเก็บข้อมูลในส่วนนี้”

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!