“มินิโซ” กางแผนผุดสาขาไม่ยั้ง เพิ่มสินค้ากระหน่ำโปรฯดันยอดโตเท่าตัว

“มินิโซ” เมืองไทยแรงจัด เปิดแค่ 3 ปี ยอดขายติดท็อปไฟฟ์โลก ประกาศเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง โฟกัสศูนย์การค้า-ห้าง ทราฟฟิกสูง ลั่นอีกปีครึ่งทะลุ 100-150 สาขา พร้อมเพิ่มยอดขายร้านเดิมด้วยการเพิ่มไลน์อัพสินค้า ควบคู่สารพัดโปรโมชั่น หวังเพิ่มการจับจ่าย ล่าสุดระดมสินค้าลิขสิทธ์ดิสนีย์ ทั้งของเล่น-ของใช้ หวังเอาใจแฟนภาพยนตร์ฮีโร่มาร์เวล เปิดเกมแรงรุกช่องทางออนไลน์-อีคอมเมิร์ซ มั่นใจสิ้นปียอดขายโตเท่าตัว

เชนร้านค้าปลีก “มินิโซ” เป็นหนึ่งในธุรกิจสัญชาติจีนที่มีจุดเด่นด้านการขยายสาขารวดเร็ว เจาะทำเลย่านช็อปปิ้ง พร้อมไลน์อัพสินค้าดีไซน์เรียบง่ายและหลากหลาย ครอบคลุมทั้งของใช้ภายในบ้าน แฟชั่น เครื่องสำอาง ไอที ฯลฯ ด้วยสถิติการเปิดสาขา 80-100 สาขา/เดือน โดยหลังก่อตั้งเมื่อปี 2556 ช่วง 5 ปีแรกขยายสาขาทั้งในจีนและต่างประเทศรวมกว่า 1,600 สาขา และปัจจุบันมีสาขามากกว่า 3,600 สาขา ใน 79 ประเทศ ทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและเอเชีย รวมถึงไทยที่ “มินิโซ” ในนามของ บริษัท ซิงไท่ เทรดดิ้ง จำกัด เข้ามาปักธงเปิดสาขาแรกในปี 2559 จนปัจจุบันมี 70 สาขา

การต

ยอดขายไทยท็อป 5 โลก

นายไช่ เสี้ยว ซิง ประธานกรรมการ บริษัท ซิงไท่ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้บริหารเชนร้านสเปเชียลตี้สโตร์แบรนด์ “มินิโซ” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันร้านมินิโซในไทยแม้ดำเนินกิจการมาเพียง 3 ปี และมีสาขา 70 สาขา กระจายอยู่ตามห้างสรรพสินค้า ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แต่ในแง่ของยอดขายกลับพบว่ามีรายได้ติดอันดับท็อป 5 ของโลก เนื่องจากสาขาที่เปิดส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพสูง ทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการค่อนข้างสูง รวมถึงมีวัยรุ่นที่เป็นฐานลูกค้าหลักของแบรนด์จำนวนมาก

นายไช่ เสี้ยว ซิง ย้ำว่า จุดเด่นของสาขาในไทย คือ มีพื้นที่ใหญ่จึงสามารถรองรับลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก ประกอบกับอุตสาหกรรมการผลิตในไทยที่มีศักยภาพ จึงทำให้บริษัทมีสินค้าต่าง ๆ ออกมาขายเป็นจำนวนมาก และหลากหลาย ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้ไทยเป็น 1 ในประเทศหลักที่บริษัทแม่ต้องการจะขยายสาขาและตั้งเป้าจะเปิดสาขาในภูมิภาคอาเซียนให้ครบ 1,000 สาขาอีก 1 ปีครึ่ง

สำหรับในไทยตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มเป็น 100-150 สาขาในช่วงเวลาดังกล่าว โดยบริษัทจะลงทุนเองทั้งหมด

ขยายสาขา-เพิ่มยอดร้านเดิม

นายหวัง จวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิงไท่ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์การตลาดของมินิโซจากนี้ไปว่า ในแง่ของการลงทุนเปิดสาขาจนถึงสิ้นปี จะเปิดเพิ่มอีก 10-15 สาขา โฟกัสไปที่ทำเลที่มีผู้บริโภควัยรุ่นหนาแน่นอย่างศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์เช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีแผนจะทดลองเปิดร้านโมเดลใหม่ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง แห่งแรกในไทยที่โครงการสามย่านมิตรทาวน์ จะเปิดตัวปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะต่อยอดกับสาขาอื่น ๆ ในอนาคตด้วย

พร้อมกันนี้ จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มยอดขายในสาขาเดิม ด้วยการปรับและเพิ่มไลน์อัพสินค้ามากขึ้น รวมถึงการทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดซื้อต่อบิลให้มากขึ้น หนึ่งในไฮไลต์ คือ สินค้าลิขสิทธิ์จากวอลต์ ดิสนีย์ เช่น ซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล โฟรเซ่น รวมถึงซีรีส์เจ้าหญิงของดิสนีย์ ซึ่งจะมีไลน์อัพที่หลากหลายขึ้น ที่สำคัญคือราคาเข้าถึงได้ง่าย

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิงไท่ เทรดดิ้ง กล่าวว่า ครึ่งปีหลังนี้ จะนำสินค้ากลุ่มซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล เข้ามา 3 รอบ โดยเพิ่มจำนวนเอสเคยูขึ้นต่อเนื่อง หลังลอตแรกมี 200 เอสเคยู เปิดตัวกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดจนสินค้าขาดตลาด ส่วน ลอต 2 เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยเพิ่มสินค้าอีก 500-600 เอสเคยู และรอบที่ 3 จะขยายสาขาที่วางจำหน่ายเป็น 10 สาขา เน้นสาขาที่มียอดขายสูง จากปัจจุบันที่วางขายเพียง 3 สาขา คือ เมกา บางนา เทอร์มินอล 21 อโศก และเซ็นทรัล เวสต์เกต ส่วนสินค้าจากการ์ตูนเรื่องอื่น ๆ และซีรีส์เจ้าหญิงของดิสนีย์จะเริ่มนำเข้ามาในปี 2563 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังเปิดตัวหมวดสินค้าเครื่องดื่มเป็นครั้งแรก ด้วยการจับมือกับบริษัท ทีทีซี น้ำดื่มสยาม จำกัด ผู้ผลิตน้ำดื่มตราสยาม ผลิตและขายน้ำแร่แบรนด์มินิโซ วางราคาจับต้องได้ที่ 15 บาท รวมทั้งมีแผนจะเพิ่มสินค้าในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และการเพิ่มช่องทางขายผ่านทางอีคอมเมิร์ซ

“กลยุทธ์นี้จะเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และรับมือกับการแข่งขันที่สูงขึ้น หลังจากมีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาในตลาดมากขึ้น”

เพิ่มไลน์อัพสินค้า-โปรฯแรง

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะทุ่มงบฯเพื่อทยอยอัพเกรดร้านสาขาเดิม โดยปรับการตกแต่งให้ใหม่และทันสมัย ปรับไลน์อัพสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าของสาขานั้น ๆ จัดโปรโมชั่นลดราคาหมุนเวียนรายเดือนตามแต่ละกลุ่มสินค้า และจัดอีเวนต์เปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงกิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ

เช่นเดียวกับการเปิดร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ ที่มีการจัดโปรโมชั่นแบบแฟลชเซล ที่ให้ราคาพิเศษในเวลาที่จำกัดไม่กี่ชัวโมง และแจกรหัสส่วนลดเพื่อกระตุ้นการรับรู้และดึงดูดลูกค้ามาที่ร้านและกระตุ้นการจับจ่าย ส่วนการทำตลาดเน้นด้านออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก

“จากกลยุทธ์การขยายสาขาเพิ่ม การไลน์อัพสินค้า คาดว่าจะช่วยให้ยอดขายปี 2562 เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 1 เท่าตัว”