“ไมเนอร์” บริหารพื้นที่สนามบิน เติมแบรนด์”ใน-นอก” เสริมทีม

ไมเนอร์เสริมแกร่งธุรกิจร้านอาหารไม่หยุด เฟ้นแบรนด์ศักยภาพนอกพอร์ตโฟลิโอ คว้าสิทธิ์แฟรนไชส์ “เอสแอนด์พี-เย็นตาโฟมัลลิการ์-บอนชอน” เสริมแกร่งร้านในสนามบิน-ต่างประเทศ ดันรายได้โตรอบทิศ

ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารต่อเนื่อง ทั้งการขับเคลื่อนด้วยแบรนด์ที่ไมเนอร์เป็นเจ้าของเอง อย่างเดอะพิซซ่า คอมปะนี, ไทยเอ็กซ์เพรส, เดอะ คอฟฟี่ คลับ ฯลฯ ควบคู่กับการขยายร้านที่ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์มา อย่างสเวนเซ่นส์. ซิซซ์เล่อร์, เบอร์เกอร์คิง ฯลฯ ความเคลื่อนไหวรอบใหม่คือการเข้าไปบริหารพื้นที่ในสนามบินและนำแบรนด์ร้านอาหารนอกเครือ อาทิ เอสแอนด์พี เย็นตาโฟมัลลิการ์ และบอนชอน เป็นต้น เพื่อเข้าไปเสริมทัพในรูปแบบแฟรนไชส์

แหล่งข่าวในแวดวงธุรกิจร้านอาหารกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในช่วงที่ผ่านมาไมเนอร์มีแบรนด์ใหม่ ๆมากขึ้น โดยเฉพาะการได้สิทธิ์แฟรนไชส์แบรนด์อื่น ๆ ในไทยนอกพอร์ตโฟลิโอของไมเนอร์ เพื่อเสริมทัพธุรกิจร้านอาหารให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารในสนามบิน อีกทำเลศักยภาพสำหรับไมเนอร์ ฟู้ด

ทั้งนี้ แบรนด์ร้านอาหารนอกพอร์ตที่ไมเนอร์ได้สิทธิขยายในสนามบิน ได้แก่ ร้านอาหารและเบเกอรี่เอสแอนด์พี ที่เปิดให้บริการที่สนามบินดอนเมือง ร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง เปิดที่สนามบินดอนเมือง และไก่ทอดเกาหลีบอนชอน เข้าไปเปิดในสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า การขยายธุรกิจร้านอาหารในสนามบินในเมืองไทยของไมเนอร์ฟู้ด บริหารผ่านบริษัท ซีเล็ค เซอร์วิส พาร์ทเนอร์ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง ไมเนอร์ ฟู้ด กับเอสเอสพี อินเตอร์เนชั่นแนล (SSP International) บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารในสนามบินในหลากหลายประเทศ เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ของไมเนอร์เอง รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ในสนามบินของประเทศไทย โดยไมเนอร์มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 51%

สอดคล้องกับข้อมูลจากรายงานประจำปี 2559 บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยอดขายของ ซีเล็ค เซอร์วิส พาร์ทเนอร์ มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา มียอดขาย 1,736 ล้านบาท จากจํานวนร้านอาหารทั้งหมด 41 สาขา ทั้งใน 8 สนามบินทั่วประเทศ ฯลฯ

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่การเงินส่วนกลางและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไมเนอร์ยังคงมีแผนเดินหน้าขยายสาขาร้านอาหารไทยในอังกฤษต่อเนื่อง ทั้งร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง “ภัทรา” “สุดา” ที่ร่วมทุนกับเอสแอนด์พี ปัจจุบันที่มีอยู่ 3 สาขาในลอนดอน ควบคู่กับการขยายแบรนด์ “แกร็บฟู้ด” อาหารไทยในรูปแบบแคชชวลไดนิ่ง ลักษณะแกร็บแอนด์โก ที่ตอนนี้มีสาขาที่ลอนดอน 4 สาขา ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจากให้เงินกู้ยืมมาเป็นเงินลงทุน ทำให้ตอนนี้ไมเนอร์มีสัดส่วนการลงทุนในแกร็บฟู้ดอยู่ที่ 70%

“ผลประกอบการไมเนอร์ฟู้ดครึ่งปีแรก โต 2% จากการขยายสาขาทั้งที่ลงทุนเองและแฟรนไชส์ ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตที่ดีขึ้นในไทย จีน ออสเตรเลีย อินเดีย และตะวันออกกลาง ขณะที่ในสิงคโปร์ที่เป็นอีกฮับสำคัญ ยังคงอ่อนตัวอยู่จากสภาพเศรษฐกิจ”

นางปัทมาวลัย รัตนพล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เคยกล่าวว่า เพื่อเดินหน้าเพิ่มรายได้จากต่างประเทศให้มากขึ้น ไมเนอร์จึงขอสิทธิ์แฟรนไชส์ร้าน “เย็นตาโฟเครื่องทรง โดย อ.มัลลิการ์” เพื่อขยายสาขาในสิงคโปร์ ช่วยให้พอร์ตธุรกิจในสิงคโปร์แข็งแรงมากขึ้น โดยจะไปในคอนเซ็ปต์ร้านเซลฟ์เซอร์วิสในราคาที่คุ้มค่าที่มีทั้งเมนูข้าว-ของหวาน รองรับกับความต้องการที่หลากหลาย ซึ่งจะเปิด 3 สาขาแรกภายในเดือนพฤศจิกายน 2559 และเปิดเพิ่มปีนี้อย่างน้อย 4 สาขา

ก่อนหน้านี้ นายวิลเลียม ไฮเน็ค ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ไมเนอร์ฯมีแผนลงทุนเพื่อขยายธุรกิจร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง โดยจะเน้นขยายแบรนด์ที่สามารถสร้างรายได้และอัตรากำไรได้ดีเป็นหลัก พร้อมกับมองหาแบรนด์อาหารใหม่ ๆ เพื่อรับกับโอกาสการเติบโตที่ดีในระยะยาว