“โรบินสัน”ชู 4 แพลตฟอร์ม รุก “ออมนิแชนเนล” ดันยอด

โอกาส - โรบินสันเดินหน้าผลักดัน 4 แพลตฟอร์ม รับนักช็อปทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ เสริมทัพห้างสรรพสินค้าอย่างต่อเนื่อง

“โรบินสัน” ปรับใหญ่ ชู 4 แพลตฟอร์ม รองรับนักช็อปออฟไลน์-ออนไลน์หนุนยอดขายห้างสรรพสินค้า มุ่ง”ออมนิแชนเนล” ตอบโจทย์ new normal สู้ดิจิทัลดิสรัปต์ เผย 2 เดือนที่ห้างเปิดไม่ได้ มียอดผู้ใช้บริการออนไลน์พุ่งกว่า 100%

นายสเตฟาน จูเบิร์ท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า และรักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้บทเรียนใหม่แก่ธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะในแง่ของการทำมาร์เก็ตติ้งเป็นอย่างมาก อย่างในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงปิดห้าง จนถึงช่วงเริ่มคลายล็อกดาวน์ของธุรกิจห้างสรรพสินค้าในระยะแรก

โรบินสันได้มีการปรับตัวทางธุรกิจครั้งใหญ่ โดยใช้แพลตฟอร์มการขาย4 ช่องทาง เป็นหัวหอกสำคัญเพื่อทดแทนและช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าของห้าง โดยรวมมีการเติบโตในทิศทางที่น่าพอใจ โดย 2 แพลตฟอร์มแรก เป็นแพลตฟอร์มการขายเดิมที่โรบินสันมีอยู่ คือ 1.โรบินสันออนไลน์ ที่ https://www.robinson.co.th/th ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนนักช็อปเข้ามาใช้บริการในแพลตฟอร์มนี้เพิ่มขึ้นกว่า 100%ส่งผลให้ยอดการช็อปเพิ่มขึ้นถึง 200% โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม 3อันดับแรก คือ สินค้าเครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน สินค้าสุขภาพและความงาม และสินค้าแม่และเด็ก 2.โรบินสัน แชต & ช็อป ที่ LINE @ ROBINSON ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แพลตฟอร์มนี้มียอดขายเพิ่มขึ้นราว 451% จำนวนการซื้อขาย(transaction) เพิ่มขึ้นถึง 639%

ขณะที่อีก 2 แพลตฟอร์ม ซึ่งถือเป็นแชนเนลการขายใหม่ที่เกิดในช่วงโควิด-19คือ 3.โรบินสัน คอล & ช็อป ที่หมายเลข 0-2160-3933 ซึ่งแบ่งเป็นการโทรศัพท์เพื่อนำเสนอขายสินค้าแก่ลูกค้า และการรับสายลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แพลตฟอร์มนี้มียอดการสั่งซื้อถึง 110,500 คำสั่งซื้อและมียอดเฉลี่ยต่อใบเสร็จราว 2,040 บาท

และ 4.โรบินสัน เฟซบุ๊กไลฟ์ ที่เฟซบุ๊ก Robinson Department Store ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักช็อปอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แพลตฟอร์มนี้มียอดการสั่งซื้อถึง 106,000 คำสั่งซื้อและมียอดเฉลี่ยต่อใบเสร็จราว 990 บาทซึ่งกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก คือ สินค้าเครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน, สินค้านาฬิกาและเครื่องประดับ, สินค้ารองเท้าและกระเป๋าสตรี

“โรบินสันมั่นใจว่าแพลตฟอร์มการขายทั้ง 4 ช่องทาง จะเข้ามาช่วยเสริมทัพการตลาดของโรบินสันให้มีความแข็งแกร่งและสามารถตอบรับนิวนอร์มอล และสถานการณ์ของดิจิทัลดิสรัปชั่นที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของนักช็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โรบินสันก้าวสู่การเป็น “ออมนิแชนเนลดีพาร์ตเมนต์สโตร์” ที่สมบูรณ์แบบตามที่ตั้งเป้าไว้ในอนาคตได้อีกด้วย”

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ส่งแคมเปญ “ช้อปด้วยใจ ไทยช่วยกัน” ไม่ว่าจะเป็นสินค้าลดสูงสุด 70% คูปองส่วนลดสูงสุด 5,000 บาท เมื่อช็อปตามเงื่อนไขที่กำหนด สมาชิกเดอะวัน รับสิทธิพิเศษ ลดเพิ่ม 12.5% เมื่อใช้คะแนนเดอะวันแลกเท่ายอดช็อป ฯลฯ ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันทุกสาขา (ยกเว้นสาขาเมกาบางนา)รวมถึงบริการแชต & ช็อป, คอล & ช็อป และเฟซบุ๊ก ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน-20 กรกฎาคม 2563

ตลอดจนส่วนลดจากร้านค้าในศูนย์สูงสุด 90% สำหรับลูกค้าสายกิน ช็อป เที่ยว อาทิ BEAUTRIUM, SUPERSPORTS, KFC, BONCHON, BBQ PLAZA, THE PIZZA COMPANY, SIZZLER ฯลฯ พร้อมรับบัตรของขวัญมูลค่า 100 บาท เมื่อช็อปร้านค้าภายในห้าง และศูนย์การค้าครบ 1,000 บาทหรือรับ e-Coupon ส่วนลดร้านค้าภายในศูนย์ รวมมูลค่า 500 บาท เมื่อช็อปโรบินสันออนไลน์ครบ 1,500 บาทขึ้นไป ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน-20 กรกฎาคม 2563 เป็นต้น