“ชาร์ป” ขยายฐานเครื่องฟอกอากาศ เจาะยานยนต์-สำนักงาน-ร้านค้า

ชาร์ป

“ชาร์ป” รุกหนักเครื่องฟอกอากาศ เดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าเพิ่ม เปิดเกมเจาะยานยนต์ ร้านค้า อาคารสำนักงาน หวังชิงส่วนแบ่งตลาด 30% ดีเดย์เปิดตัวรุ่นใหม่ธันวาคมนี้ เจาะวงการยานยนต์ ก่อนส่งรุ่นใหม่เอี่ยมรองรับ IOT ราคาสบายกระเป๋า เอาใจลูกค้าครัวเรือน พร้อมปูพรมสื่อ-อินฟลูเอนเซอร์ ย้ำ 20 ปี เทคโนฯพลาสมาคลัสเตอร์ ฆ่าไวรัสโควิด-ดับกลิ่น

นายอรุณพงศ์ ทองสุทธิ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศและเครื่องปรับอากาศ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดเครื่องฟอกอากาศมูลค่า 3,000 ล้านบาท ปีนี้มีแนวโน้มคึกคัก สะท้อนจากฟีดแบ็กของดีลเลอร์ที่มีลูกค้าเข้ามาสอบถามรายละเอียดสินค้ามากขึ้น ตั้งแต่หลังคลายล็อกดาวน์เมื่อช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะการสอบถามเรื่องของฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อหรือยับยั้งไวรัส

ขณะที่กลุ่มลูกค้าองค์กร เช่น ร้านอาหาร สำนักงาน แสดงความสนใจเรื่องการป้องกันไวรัสในอากาศมากขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี นอกจากนี้ ดีลเลอร์เริ่มสั่งสินค้าเข้าร้าน เพื่อเตรียมรองรับดีมานด์ช่วงท้ายปีซึ่งมักมีปัญหาฝุ่น PM 2.5

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการต่อยอดกระแสความสนใจนี้ บริษัทจึงเดินกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าเครื่องฟอกอากาศไปยังกลุ่มต่าง ๆ นอกเหนือจากการใช้งานในบ้านเรือน อาทิ ยานยนต์ ร้านค้า อาคารสำนักงาน ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและลูกค้าองค์กรในธุรกิจค้าขาย บริษัทเอกชน และโครงการอสังหาฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาหลายราย โดยเริ่มจากกลุ่มยานยนต์ ซึ่งที่ผ่านมามีดีมานด์ทั้งจากผู้ใช้รถ และค่ายรถยนต์ ที่ต้องการนำไปใช้เป็นของพรีเมี่ยมส่งเสริมการขาย

โดยจะเน้นย้ำจุดขายสำคัญคือเทคโนโลยีพลาสมาคลัสเตอร์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีฟอกอากาศด้วยการสร้างไอออนบวกและไอออนลบ ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของชาร์ป สามารถกำจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อไวรัสทั้งในอากาศและบนพื้นผิว

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมนำเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ (iron generator) รุ่น IG-NX2B เข้ามาจำหน่ายในเดือนธันวาคม 2564 นี้ พร้อมจุดขายกำจัด 5 กลิ่น ที่พบบ่อยในรถยนต์ เช่น ควันบุหรี่ เสื้อผ้าอับชื้น กลิ่นอาหาร เชื้อรา กลิ่นสัตว์ รวมถึงมีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ plasmacluster NEXT ที่ปล่อยพลาสมาคลัสเตอร์ไอออนได้มากถึง 50,000 ไอออน วางระดับราคาที่ 5,990 บาท

ส่วนเครื่องฟอกสำหรับใช้ในอาคาร ปีนี้จะเน้นจุดขายเรื่องเทคโนโลยี IOT เช่น การสั่งงานผ่านออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันขยายรุ่นที่รองรับเพิ่มจาก 3 รุ่น เป็น 6 รุ่น และวางราคาให้จับต้องง่ายขึ้น เริ่มต้น 8,000 บาท จากเดิมที่เริ่มต้นที่ราคาระดับหมื่นปลาย

“การที่ผู้คนสนใจสุขภาพและความสะอาดมากขึ้น ทำให้ยังมีอีกหลายพื้นที่ทั้งส่วนตัวและสาธารณะที่เครื่องฟอก สามารถเข้าไปได้ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แท็กซี่ ร้านค้า ห้องประชุม ฯลฯ ซึ่งต่างเป็นโอกาสที่จะเข้าไปทำตลาด ด้วยสินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละกลุ่ม”

นายอรุณพงศ์กล่าวว่า นอกจากเครื่องฟอกแล้วเปิดตัวเครื่องซักผ้า Pro-Flex Series รุ่น ES-DK1054PT-S ซึ่งใช้เทคโนโลยีพลาสมาคลัสเตอร์สำหรับกำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย โดยจะเริ่มจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ในราคา 42,990 บาท และหลังจากนี้จะเปิดตัวสินค้าอื่น ๆ ที่มีเทคโนโลยีพลาสมาคลัสเตอร์เพิ่มอีกอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้จะอาศัยจังหวะครบรอบ 20 ปีของเทคโนโลยีพลาสมาคลัสเตอร์ เป็นธีมหลักในการทำตลาด ด้วยการชูผลวิจัยจากสถาบันต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น เกี่ยวกับประสิทธิภาพการลดจำนวนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอากาศ และบนพื้นผิวในระดับ 91-94% เพื่อเน้นย้ำความเชื่อมั่นในแบรนด์และตัวสินค้า พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษและของแถม ร่วมกับการปูพรมติดสื่อที่จุดจำหน่าย-ออนไลน์ การใช้อินฟลูเอนเซอร์ด้านไอทีและไลฟ์สไตล์

ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี พ.ศ. 2565 จะเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดเครื่องฟอกอากาศจาก 20% เป็น 30% จากการขยายฐานลูกค้าและเจาะช่องทางจำหน่ายออนไลน์ด้วยการเปิดร้านในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพิ่ม พร้อมรักษาฐานในช่องทางดีลเลอร์และโมเดิร์นเทรด