MARKET MOVE
ในปี 2565 ที่จะถึงนี้ การแข่งขันในตลาดทีวี โดยเฉพาะเซ็กเมนต์โอแอลอีดีมีแนวโน้มจะดุเดือดและต้องจับตามอง เมื่อ ซัมซุง เตรียมเปิดตัวทีวีที่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ ในชื่อ “คิวดี-โอแอลอีดี” (QD-OLED) หรือ “ควอนตัมดอท-โอแอลอีดี” ซึ่งเป็นจอที่ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์หวังให้รวมจุดเด่นด้านความสว่างของจอแอลอีดีและการให้สีดำสนิทโอแอลอีดีไว้ด้วยกัน
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ด้วยจุดเด่นนี้อาจทำให้เซ็กเมนต์โอแอลอีดีทีวีที่แอลจีเป็นผู้ครองตลาดอยู่ต้องสั่นสะเทือน จนอาจเป็นชนวนให้เกิดการแข่งขันดุเดือดระหว่าง 2 แบรนด์ยักษ์ในวงการอย่าง แอลจี และซัมซุง เพื่อชิงลูกค้าในเซ็กเมนต์นี้
สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานถึงศึกในตลาดทีวีที่เตรียมปะทุนี้ว่า เมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โรงงานของซัมซุงดิสเพลย์ในเมืองอาซาน ประเทศเกาหลีใต้ ได้จัดส่งหน้าจอ “คิวดี-โอแอลอีดี” ชิ้นแรกไปยังไลน์ประกอบเพื่อผลิตเป็นทีวีแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ ซัมซุงได้ทุ่มงบฯไปกว่า 13.1 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 3.75 แสนล้านบาท เพื่อวิจัยพัฒนาหน้าจอชนิดนี้
พร้อมคาดว่า ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์จะจัดอีเวนต์ Samsung First Look เพื่อเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้หน้าจอนี้ในขนาด 55 นิ้ว 65 นิ้ว และจอคอมพิวเตอร์ขนาด 34 นิ้ว ในช่วงต้นเดือน ม.ค. 65 ก่อนจะนำไปโชว์ตัวในงาน CES 2022 หนึ่งในงานแสดงเทคโนโลยีและเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ของโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-8 ม.ค. 2565
สำหรับเทคโนโลยี “คิวดี-โอแอลอีดี” นั้น เป็นการสร้างจอโอแอลอีดีแบบให้แสงสีฟ้าแทนสีขาว พร้อมกับใช้เทคโนโลยีควอนตัมดอทที่ซัมซุงพัฒนาขึ้นและเดิมใช้กับจอแอลซีดี มาใช้กับจอโอแอลอีดีนี้เพื่อช่วยให้หน้าจอสามารถแสดงภาพที่มีสีสดใสและความสว่างสูงยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังให้สีดำที่ดำสนิทได้เหมือนเดิม จึงเหมาะกับการชมคอนเทนต์แบบ HDR ที่กำลังได้รับความนิยม
ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพและเสียงต่างยังไม่ฟันธงในเรื่องนี้ จนกว่าจะได้สัมผัสของจริงด้วยตนเองเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ด้วยจุดเด่นและระดับราคาที่แม้ซัมซุงจะยังไม่เปิดเผยข้อมูลออกมา แต่หลายฝ่ายคาดว่าจะอยู่ระหว่างสินค้าตัวท็อปอย่างไมโครแอลอีดี และโอแอลอีดีทั่วไป ทำให้สื่อและผู้เชี่ยวชาญในวงการต่างเห็นว่า การเปิดตัวทีวีที่ใช้เทคโนโลยีคิวดี-โอแอลอีดีของซัมซุง น่าจะกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันราคา ระหว่างคิวดี-โอแอลอีดี กับโอแอลอีดีทีวี
เนื่องจากที่ผ่านมา หน้าจอโอแอลอีดีมีผู้ผลิตรายใหญ่เพียง 2 รายที่แบ่งเซ็กเมนต์กันอย่างชัดเจน คือ แอลจีที่เป็นผู้ผลิตหน้าจอขนาดใหญ่สำหรับผลิตเป็นทีวีครองสัดส่วน 80% และซัมซุงซึ่งเป็นผู้ผลิตหน้าจอขนาดเล็กสำหรับอุปกรณ์พกพามีส่วนแบ่งตลาด 70% เมื่อรวมกับขนาดเซ็กเมนต์ที่ค่อนข้างเล็กสะท้อนจากในปี 2563 จากทีวี 230 ล้านเครื่องที่ขายอยู่ทั่วโลก โอแอลอีดีมีจำนวนเพียง 2% เท่านั้น ทำให้ที่ผ่านมาการแข่งขันไม่สูงนัก
แต่ล่าสุดนอกจากซัมซุงจะผลิตทีวีแบบคิวดี-โอแอลอีดีด้วยตนเองแล้ว จะยังใช้กำลังผลิตที่สูงถึง 3 หมื่นชิ้นต่อเดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับประกอบเป็นทีวีขนาด 55 นิ้ว 1.8 แสนเครื่องนี้ ขายหน้าจอชนิดนี้ให้กับแบรนด์อื่น ๆ เพื่อนำไปผลิตทีวีด้วยเช่นกัน โดยแหล่งข่าวในวงการเปิดเผยว่า โซนี่เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สนใจจะนำคิวดี-โอแอลอีดีไปใช้ในทีวีของตน และอยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพ รวมถึงเจรจาดีลจัดซื้อ
ขณะเดียวกัน แอลจี ยังประกาศเพิ่มกำลังการผลิตหน้าจอโอแอลอีดีขนาดกลางและเล็กสำหรับอุปกรณ์พกพา ด้วยเม็ดเงินลงทุนถึง 3.3 ล้านล้านวอน หรือ 9.46 หมื่นล้านบาท เพื่อกำลังผลิตให้โรงงานในเมืองพาจู หลังจากก่อนหน้านี้ได้สัญญาเป็นผู้ผลิตหน้าจอโอแอลอีดีให้กับแอปเปิลเพื่อใช้ในไอโฟน
นอกจากนี้ ในเซ็กเมนต์แอลซีดีทั้ง 2 แบรนด์ยังถูกกองทัพคู่แข่งจากแดนมังกรไล่กวดด้วยความได้เปรียบด้านกำลังผลิตมหาศาลและต้นทุนที่ต่ำกว่าจนยากจะแข่งขันได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงที่การเปิดตัว “คิวดี-โอแอลอีดี” จะกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันทั้งระหว่าง 2 ยักษ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติเกาหลีใต้ เพื่อชิงทั้งฐานลูกค้าองค์กร และลูกค้าปลายน้ำ
ทั้งนี้ การแข่งขันจะดุเดือดแค่ไหน ต้องรอดูว่า “คิวดี-โอแอลอีดี” จะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน และซัมซุงจะวางราคาเปิดตัวไว้ที่เท่าใด จะใกล้เคียงกับโอแอลอีดีอย่างที่คาดหรือไม่ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนในงานเปิดตัวช่วงต้นปีหน้า
