GMM จับมือ 4 แพลตฟอร์มยักษ์บุกตลาด MUSIC NFT

ภาวิต จิตรกร

“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” จับมือ 4 แพลตฟอร์มยักษ์ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ลงทุนในตลาด MUSIC NFT หวังสร้างมูลค่าเพิ่มเตรียมพร้อมสู่ธุรกิจเพลงแห่งอนาคต

วันที่ 16 ธันวาคม 2564 นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเกิดขึ้นของ NFT กำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั่วโลก นับเป็นโอกาสใหม่ ที่จะเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้จากการซื้อขายชิ้นงานที่ไร้ขอบเขต สามารถเข้าถึงได้ง่ายในโลกดิจิทัล ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่รักและชื่นชอบศิลปินในอุตสาหกรรมเพลง

ทำให้บริษัทได้ศึกษาเรื่อง MUSIC NFT เนื่องด้วยจีเอ็มเอ็มแกรมมี่มี Hidden Asset ที่สอดคล้องกับ NFT ที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเปิดแพลตฟอร์ม แต่ต้องการที่จะสร้างตลาด MUSIC NFT ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

โดยมีความพร้อมปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แฟนเพลงสามารถเข้าถึงครอบครอง ลงทุน ในคอลเล็กชั่นพิเศษต่าง ๆ ของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ซึ่งการมีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งน่าจะเป็นตัวเร่งและส่งเสริมให้ตลาด MUSIC NFT ในประเทศไทยเป็นที่นิยมในวงกว้างได้รวดเร็วขึ้น

Advertisment

ล่าสุดจึงจับมือร่วมกับ 4 แพลตฟอร์ม อย่าง Bitkub, Coral, East NFT และ Zipmex โดยเลือกวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนและแตกต่างในแต่ละแพลตฟอร์ม ทั้งนี้บริษัทยังพร้อมที่จะร่วมมือกับ Platform NFT เจ้าอื่น ๆ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการเจรจาข้อตกลงและจะทำการประกาศความร่วมมือในลำดับต่อไป

นายภาวิตยังได้เจาะลึกลงถึงรายละเอียด สำหรับ 4 พันธมิตรจะร่วมส่งเสริมตลาด MUSIC NFT ประกอบด้วย

1.Bitkub กลยุทธ์ในการวางสินค้าในแพลตฟอร์มนี้จะเป็นเรื่องของ Young Artist ที่มี Digital Mindset เป็นสินค้าที่มีความครีเอทีฟ และดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่

2.Coral กลยุทธ์ในการวางสินค้าในแพลตฟอร์มนี้คือ Mass Inventory Collection ที่จับต้องง่าย เป็นสินค้าของศิลปินที่เป็นขวัญใจมหาชน

Advertisment

3.East NFT กลยุทธ์ของแกรมมี่สำหรับแพลตฟอร์มนี้คือชิ้นงานที่เป็นประวัติศาสตร์ของศิลปินชื่อดังระดับตำนานที่จะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก และสินค้าที่เป็น Rare Item

4.Zipmex กลยุทธ์การเดินเข้าในกลุ่มเป้าหมายของแพลตฟอร์มนี้จะเป็น Campaign Innovation การสร้างคอมมิวนิตี้จัด Virtual fan meet และเน้นในเรื่องของการเป็น Global Connector ยกระดับ มาตรฐาน Digital Asset ของไทยให้ดึงดูดกลุ่มแฟนคลับทั่วโลก

ขณะที่ MUSIC NFT ของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ แบ่งออกเป็น 4 Tiers ในแต่ละแพลตฟอร์ม ได้แก่

1.Special Collection-สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนเพิ่งเริ่มต้นเข้ามาในโลกของ MUSIC NFT ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะเน้นความ Mass เข้าถึงง่าย ราคาไม่แพง

2.Rare Collection-กลุ่มนี้จะเป็นสินค้าที่มีจำกัดและเป็น Unseen Item โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Limited Item และ Limited Movement

3.Epic Collection-กลุ่มสินค้าที่ไม่มีการผลิตซ้ำ เป็น Moment พิเศษ ที่เป็นตัวแทนของความทรงจำที่มีคุณค่า ให้แฟน ๆ ได้เข้าถึงและสามารถครอบครองได้

4.Legendary Collection-เป็นสินค้าและผลงานของศิลปินระดับตำนานของประเทศที่มีเรื่องราวความเป็นมา มีความหายาก มีเพียงชิ้นเดียวในโลก

อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องการบุกเบิกตลาด MUSIC NFT ในต้นปีหน้า ด้วยความพร้อมถึง 48 แคมเปญ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มแฟนพันธุ์แท้ของศิลปิน