คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่ (Honda Accord e:HEV) ถือเป็นรถรุ่นล่าสุดท้ายค่ายฮอนด้าได้เปิดตัวทำตลาดในบ้านเรา ซึ่งเป็นตลาดที่ฮอนด้าบอกว่า เขายังมีกลุ่มแฟน ๆ ลูกค้าผู้ใช้งานอย่างเหนียวแน่น
รวมทั้งยังมีกลุ่มที่อยากสเต็ปอัพขึ้นมาจากรถยนต์กลุ่มต่าง ๆ ของฮอนด้านั้นยังมีอยู่
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
ท่ามกลางกระแสตลาดรถที่รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ (D-segment) นั้นหดตัวลงเรื่อย ๆ แต่ฮอนด้ายังคงมีความแข็งแกร่ง และมั่นใจอย่างยิ่งในการทำตลาดครั้งนี้
ฮอนด้า แอคคอร์ด เวอร์ชั่นนี้ถือเป็น เจเนอเรชั่นที่ 11 มีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ฮอนด้าตัดสินใจแนะนำเฉพาะเครื่องยนต์ อี:เอชอีวี (e:HEV) หรือไฮบริด ทำตลาดเท่านั้น
และยังนำระบบความปลอดภัย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย สำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ใหม่
ส่วนการออกแบบภายนอกนั้น แล้วแต่รสนิยม ความชื่นชอบของแต่ละบุคคลไป
แต่ยอมรับว่าหลังจากได้เห็นรถคันนี้ครั้งแรก ยังไม่ถูกอกถูกใจกับดีไซน์ที่ฮอนด้าใช้ แต่เมื่อมานั่งพิจารณาจริง ๆ รถคันนี้กลับชวนมองมากขึ้น ด้วยการออกแบบให้มีกลิ่นอายความสปอร์ต ความย้อนยุค โดยเฉพาะรุ่นตัวถังสีขาว ซึ่งเป็นสีฮีโร่
กระจังหน้าออกแบบใหม่ มีมิติ ส่วนของไฟหน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และพับเก็บอัตโนมัติ ล้ออัลลอย (17 นิ้ว)
ส่วนภายในตกแต่งโทนสีดำ เรียบหรู พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอข้อมูลขนาด 10.2 นิ้ว ส่วนหน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย มีระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
มีจอ Head Up Display ขนาด 11.5 นิ้ว มองได้ชัดเจนสะใจ
ช่องแอร์ออกแบบมาแบบย้อนยุค ควบคุมทิศทางลมคล้ายจอยสติ๊ก
ฮอนด้าออกแบบแป้นวงกลม มาทำหน้าที่เป็นนาฬิกาดิจิทัล และเพิ่มความสะดวกสบายกับปุ่มควบคุมสั่งการต่าง ๆ อาทิ ตั้งอุณหภูมิ และแรงลมแอร์ ตามชอบได้ 3 แบบ หรือปรับสีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารเพิ่มเข้ามา มีความลงตัวและใช้งานได้ง่าย
ส่วนเบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง เลื่อนออกอัตโนมัติ เมื่อขึ้นและลงรถโอบกระชับนั่งสบาย
รุ่นที่ประชาชาติฯได้รับหน้าที่ทดสอบครั้งนี้เป็นตัวกลาง หรือรุ่น EL ซึ่งเอาเข้าจริง รุ่นนี้น่าจะเป็นตัวทำยอดได้มากกว่ารุ่น RS ที่เป็นรุ่นท็อป เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการนำไปใช้งานจริง
สิ่งที่ต้องชมคือ เสียงของเครื่องยนต์ และมอเตอร์เงียบมาก ขณะที่เราเข้ามาอยู่ในตัวรถพร้อมสตาร์ตเครื่องรอออกเดินทาง แม้แต่การวิ่งในย่านความเร็วกลาง ๆ ฮอนด้าทำตรงนี้ออกมาดีจริง
รถคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ที่ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 182 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร
ต้องบอกว่าตลอดเส้นทางจากกระบี่ขับมายังภูเก็ตนั้น รถคันนี้ให้ฟีลในการขับดีมาก อัตราเร่งทันใจ ตอบสนองได้ตามจังหวะแรงกดแป้นคันเร่งมาไว
ชนิดที่ต้องบอกว่าขับได้สนุกในทุกย่านความเร็ว
ส่วนระบบความปลอดภัย ระบบการเตือนต่าง ๆ แม่นยำ
บางช่วงของการทดสอบมีฝนลงมา ทำให้เห็นถึงอาการของรถ การยึดเกาะถนนในช่วงเส้นทางคดโค้ง รถเก็บอาการได้ดี
ฮอนด้าเซตน้ำหนักของพวงมาลัยมาได้คมและเเม่นยำ
ถึงตรงนี้ต้องบอกว่ายิ่งขับ ยิ่งสนุก
ส่วนความแรงเอาเข้าจริงรถคันนี้ สามารถทะยานไปได้เเบบเหลือเฟือระดับ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงยังไปได้
ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี คันนี้ ฮอนด้าทำออกมาได้ กริบจริง ๆ สุดท้ายคงต้องขึ้นอยู่กับลูกค้าจะตัดสินใจ เลือกอย่างไร
เพราะอีกจุดขายหลักที่นายใหญ่ ฮอนด้า เน้นย้ำตั้งแต่วันเปิดตัวว่า
“วันนี้ฮอนด้ามองไปที่ความสบายใจและความสะดวกในการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก ที่สำคัญ รถคันนี้เติมน้ำมันเต็มถังก็วิ่งได้ไกลเกือบ 1,000 กิโลเมตรได้สบาย ๆ”
คงต้องรอดูกันว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แต่จากการทดสอบครั้งนี้ เราวิ่งไปทั้งสิ้น 256.9 กิโลเมตร รถคันนี้ยังเหลือวิ่งได้อีก 537 กิโลเมตร
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16.1 กิโลเมตรต่อลิตร
ซึ่งหากขับแบบการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตัวเลขน่าจะทำได้ดีกว่านี้
ถึงตรงนี้ก็คงต้องให้ลูกค้าได้ตัดสินใจ ว่าราคาค่าตัวของเจ้า ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี รุ่น EL คันนี้ ที่มีราคา 1.669 ล้านบาท นั้นจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่
