เอ็มจีซี-เอเชีย เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ลั่นปี 63 กวาดรายได้ 3 หมื่นล.กอดแชมป์ค้าปลีกรถยนต์

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ

เอ็มจีซี-เอเชีย เพิ่มศักยภาพการแข่งขันพร้อมส่งนวัตกรรมใหม่ ทุ่มขยายเครือข่ายบริการรองรับฐานลูกค้า รุกเทคโนโลยีดิจิทัลและแพลตฟอร์มใหม่ ปูพรมพัฒนาบุคลากรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าปี 2563 กวาดรายได้ 3 หมื่นล้าน

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่า ในปี 2563 เอ็มจีซี-เอเชีย พร้อมก้าวสู่ทศวรรษใหม่ของการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ ด้วยการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน  เฟ้นหาผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมและนวัตกรรมใหม่ๆ เร่งขยายเครือข่ายการให้บริการ เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

และเตรียมพร้อมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและแพลตฟอร์มใหม่ๆ รวมถึงการทำตลาดแบบใหม่ผ่านหลายช่องทาง (Omni Channel) เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน โดยมั่นใจว่าธุรกิจของกลุ่มในปีนี้จะมีรายได้รวมราว 30,000 ล้านบาท โตไม่ต่ำกว่า 10-15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“ปี 2562 ที่ผ่านมาเราทำผลงานได้ค่อนข้างดี มีรายได้รวมของกลุ่มบริษัทฯ ประมาณ 25,576 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 6.3%”

ดร. สัณหวุฒิ กล่าวว่า เอ็มจีซี-เอเชีย คือหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ในประเทศไทย เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 20 ปี มีศักยภาพพร้อมในทุกด้าน ด้วยความหลากหลายของยนตรกรรมที่มีให้เลือกทุกระดับ ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ผ่านโครงข่ายผู้แทนจำหน่าย และธุรกิจการบริการต่างๆ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 96 เอาต์เลต กับฐานลูกค้ากว่า 580,000 ราย

Advertisment

โดยภายในปีนี้ บริษัทมีแผนขยายโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการครบวงจร ในรูปแบบแฟลกชิปโชว์รูมและออโต้เพล็กซ์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และเพิ่มศูนย์บริการหลังการขาย พร้อมศูนย์ซ่อมสีและตัวถังครบวงจร เพื่อตอบรับการเติบโตของกลุ่มลูกค้า

อาทิ 1.เอ็มจีซี-เอเชีย ออโตเพล็กซ์ สุราษฎร์ธานี ศูนย์รวมรถหลากหลายแบรนด์ในเครือ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู, เปอโยต์, มาสเตอร์เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ ฯลฯ 2.ซัมมิทฮอนด้า สาขาบางนา 3.มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป สาขาสวนหลวง ขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 4.เปอโยต์ พระรามห้า 5.อาคารสำนักงานใหญ่ ลาดพร้าว 112 ซึ่งจะมีทั้งโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็กชั่น

รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนือง เช่น M Performance ที่มุ่งเน้นความแรงและความสปอร์ต

Advertisment

เอ็มจีซี-เอเชีย ยังเดินหน้าสร้างความมั่นในในการให้บริการลูกค้า ด้วยแนวคิดหลอมรวมการทำงานของแต่ละหน่วยธุรกิจในเครือ (Synergy) โดยมองถึงความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่ง เอ็มจีซี-เอเชีย มีความหลากหลายในธุรกิจยานยนต์ ส่งผลให้สามารถเอื้อประโยชน์ต่อกัน เพิ่มประสิทธิภาพการในการบริการลูกค้าได้สูงสุด เน้นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหลากหลายช่องทาง โดยผสมผสานช่องทางการสื่อสารแบบออฟ-ไลน์และออน-ไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าแบบไร้รอยต่อ

ปัจจุบันเรามีช่องทางการสื่อสารแบบออฟ-ไลน์ ผ่านโครงข่ายผู้แทนจำหน่าย และธุรกิจการบริการต่างๆ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 96 เอาท์เลต รวมถึงแบบออน-ไลน์ อาทิ เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย พร้อมเพิ่มช่องทางการติดต่อที่สะดวกผ่านเบอร์โทร 4 หลักในธุรกิจหลักต่างๆ ที่จะเชื่อมต่อกับดิจิทัลแพลตฟอร์มและอื่นๆ ในอนาคต

ในระยะหลายปีมานี้ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว เพื่อให้ทันกับรูปแบบของธุรกิจที่เปลี่ยนไป เอ็มจีซี-เอเชียได้มีการจัดองคาพยพ นำบุคลากรมืออาชีพเสริมทัพ พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มศักยภาพบุคลากร ขณะเดียวกันก็ได้พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน

เอ็มจีซี-เอเชีย เชื่อว่าการที่องค์กรจะสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงได้ให้ความสำคัญด้านการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผ่าน มาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกทักษะบุคลากร เกี่ยวกับยานยนต์ครบวงจร ส่งผลให้ เอ็มจีซี-เอเชีย สามารถขับเคลื่อนอย่างมืออาชีพ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

และในโอกาสบริษัทดำเนินงานในธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ในไทยครบ 20 ปี ได้เตรียมแผนฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยให้ความสำคัญกับ 3 องค์ประกอบหลัก คือ ลูกค้า คู่ค้า และบุคลากร อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย คืนกำไรให้กับลูกค้า การดูแลลูกค้า โดยการเพิ่มประสิทธิภาพบริการหลังการขายและขยายศูนย์บริการ, การร่วมมือกับคู่ค้าและพนักงานในการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านมูลนิธิ ‘ธรรมชวนวิริยะ’

สำหรับกลุ่มธุรกิจของ เอ็มจีซี-เอเชีย ตอนนี้แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1. กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ อัลตราลักชัวรี่ ได้แก่ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก, แอสตัน มาร์ติน แบงคอก และ ซูเปอร์คาร์ ,ลักชัวรี่ – มาเซราติ ประเทศไทย พรีเมียม – มิลเลนเนียม ออโต้ (บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด), และ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน, พรีเมียมแมส – เปอโยต์, แมส – ซัมมิท ฮอนด้า ,รถใช้แล้ว – บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมียม ซีเล็กชั่น, มินิ เน็กซ์, ฮอนด้า เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์, มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ และ ยัวร์ไบค์ ,รถเช่าและพนักงานขับรถ- มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล และ ซิกท์ ประเทศไทย , และ มาสเตอร์ ไดร์ฟเวอร์ แอนด์ เซอร์วิสเซส ,อาฟเตอร์มาร์เก็ต – เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส แอนด์ ไทร์

2. กลุ่มธุรกิจนำเข้ายานยนต์ – เปอโยต์ ประเทศไทย (เบลฟอร์ท ออโตโมบิล) 3. กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันภัย – ฮาวเด้น แม็กซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ 4. กลุ่มธุรกิจครีเอทีฟโซลูชั่น – i24, iMX (Innovative Mobility Experience) และ MAT (Master Automotive Training Center) 5. กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ – อะซิมุท ยอชท์ ประเทศไทย [เอ็มจีซี-มารีน (เอเชีย)]