เอ็มจีซี-เอเชีย ชู”บิ๊กดาต้า”เสิร์ฟทุกความต้องการลูกค้า สยายปีกเพิ่มอีก 5 ทำเล

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ

เอ็มจีซี-เอเชีย ชูบิ๊กดาต้าพร้อมลูกค้าในมือกว่า 5 แสนรายต่อยอดเสิร์ฟทุกเมนูสนองทุกไลฟ์สไตล์ ลุยขยายเครือข่ายเพิ่มอีก 5 โลเกชั่น ดันเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 2.3 หมื่นล้าน

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือเอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่า แผนรุกตลาดปี 2564 ยังเน้นทำตลาดในเชิงกลยุทธ์ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า รวมถึงการขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากการใช้บิ๊กดาต้า ซึ่งทั้งกลุ่มมีรายชื่อลูกค้ามากกว่า 5.5 แสนราย สามารถนำมาปรับและต่อยอดธุรกิจ โดยทำทุกอย่างให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งมั่นใจว่าการรุกตลาดอย่างชัดเจนและมีระบบน่าจะผลักดันให้เอ็มจีซี-เอเชียทำรายได้ทั้งกรุ๊ปสูงถึง 23,000 ล้านบาท โตมากกว่า 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา

“ปีที่แล้วอุตฯรถยนต์โดยรวมหดตัวไปมากกว่า 31% ด้วยพิษโควิด ซึ่งเราเองก็หนีไม่พ้น แต่จากการปรับตัวอย่างรวดเร็ว และมีนโยบายรับมือกับวิกฤต ทำให้สามารถประคับประคองตัวจนจบปี 2563 และมีรายได้รวม 21,465 ล้านบาท มียอดขายรถใหม่รวม 10,078 คัน ลดลง 13.5% จากปีก่อนแต่ยังตกน้อยกว่าตลาด และยังครองสัดส่วนยอดขาย 17% ในตลาดรถพรีเมี่ยม”

สำนักงานใหญ่ ลาดพร้าว ซอย 112

 

ดร.สัณหวุฒิกล่าวอีกว่า แผนรุกตลาดปีนี้ยังให้น้ำหนักกับทุกกลุ่มธุรกิจ โดยจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ปีนี้มีแผนขยายเครือข่าย โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรบน 5 โลเกชั่นสำคัญผ่าน 7 แบรนด์ในเครือ อาทิ ลาดพร้าว ซอย 112, พัฒนาการ-ศรีนครินทร์, บางนา-ตราด กม.4.5, ราชพฤกษ์-ธนบุรี และจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงมีแผนขยายเครือข่าย MMS Bosch Car Service เพิ่มอีก 15 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปี

“ทั้งหมดนี้จะทำให้เอ็มจีซี-เอเชียมีโครงข่ายมากถึง 21 โลเกชั่น 66 โชว์รูม 37 เซอร์วิส 35 รีเทล ซึ่งมีอยู่ในต่างประเทศ 8 แห่ง สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

ซีอีโอเอ็มจีซี-เอเชียกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนธุรกิจที่ต้องพึ่งพิงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจรถเช่า ทางกลุ่มได้พยายามปรับพอร์ตให้สอดรับกับสภาพตลาด กลุ่มรถเช่าระยะสั้นก็ลดขนาดลง ไปเพิ่มเติมกลุ่มรถเช่าระยะยาว แต่ในวิกฤตก็ยังเป็นโอกาส โดยเฉพาะประกันภัย ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ สามารถสร้างรายได้จากเบี้ยประกันสูงถึง 2,767 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 14%

สำหรับธุรกิจของเอ็มจีซี-เอเชียได้แบ่งเป็น 5 กลุ่มหลักประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์และบริการครบวงจร ลักเซอรี่คาร์-โรลส์-รอยส์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก, แอสตัน มาร์ติน แบงคอก และมาเซราติ ประเทศไทย, พรีเมี่ยมคาร์ มิลเลนเนียม ออโต้ (บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด) แล ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน, พรีเมี่ยมแมสคาร์ เปอโยต์ บริหารงานโดยไลอ้อน ออโตโมบิล, แมสคาร์ ฮอนด้า บริหารงานโดยซัมมิท ฮอนด้า, รถใช้แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม ซีเล็กชั่น, มินิ เน็กซ์, ฮอนด้า เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์, มาสเตอร์ เซอร์ติฟายด์ ยูสคาร์ และยัวร์ไบค์, รถเช่าและพนักงานขับรถ มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล และซิกท์ ประเทศไทย, และมาสเตอร์ ไดรฟเวอร์ แอนด์ เซอร์วิสเซส, อาฟเตอร์มาร์เก็ต เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส แอนด์ ไทร์

2.กลุ่มธุรกิจนำเข้ายานยนต์ เปอโยต์ ประเทศไทย หรือบริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด 3.กลุ่มธุรกิจครีเอทีฟโซลูชั่น i24, iMX และ MAT 4.กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ อะซิมุท ยอร์ช ประเทศไทย 5.กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันภัย-ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์