นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่าวันนี้ พนักงานคดี สำนักคดี สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
คดีนี้สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 กรณีนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 จึงมีอำนาจกำกับและควบคุมกำกับหน่วยงานของรัฐในฝ่ายบริหารทั้งหมด
โดยเมื่อปี พ.ศ. 2546 นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบและยินยอมให้กระทรวงการคลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (TPI) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าปรึกษา จนนำไปสู่การทำหนังสือยินยอมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (TPI) โดยมีรายชื่อ คณะผู้บริหารแผน ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร เสนอ และกระทรวงการคลังได้เข้าไปเป็นผู้บริหารแผน
การกระทำของ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงเป็นการกระทำทั้งที่รู้อยู่ว่ากระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นส่วนราชการ ไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนกิจการหรือจัดการทรัพย์สินให้กับบริษัทเอกชน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงการคลังและเสียหายต่อระบบราชการ จึงเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และได้ส่งอัยการสูงสุดดำเนินคดี ต่อมาได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุดและฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขึ้นมาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกัน แต่คณะทำงานดังกล่าว ไม่อาจหาข้อยุติเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีได้
ดังนั้นในวันนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มอบหมายให้พนักงานคดี สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการยื่นฟ้องเองต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม. 40/2561 โดยคดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องพร้อมคำร้องขอให้ศาลประทับรับฟ้องไว้พิจารณา กรณีไม่ปรากฎตัวจำเลยต่อหน้าศาล โดยอาศัยเหตุตามเงื่อนไขการยื่นฟ้องโดยไม่ปรากฏตัวจำเลยต่อหน้าศาล ตามนัยมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 เนื่องจากจำเลยไม่มารายงานตัวและศาลได้เคยออกหมายจับในคดีอื่นไว้แล้ว
สำหรับในคดีที่เคยฟ้องไว้แล้ว และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้ดำเนินการยื่นคำร้องขอยกคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีขึ้นพิจารณาใหม่อีก 2 คดี คือ คดีทุจริตการอนุมัติให้กู้เงินแก่รัฐบาลสหภาพพม่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท (Exim Bank) และคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (คดีหวยบนดิน) นั้น มีความคืบหน้า ดังนี้
1. คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 คณะกรรมการตรวจสอบ การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ นายทักษิณ ชินวัตร จำเลย กรณีทุจริตการอนุมัติให้กู้เงินแก่รัฐบาลสหภาพพม่า 4ม000 ล้านบาท (Exim Bank) ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 4 กรกฎาคม 2561
2. คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 คณะกรรมการตรวจสอบ การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ นายทักษิณ ชินวัตร กับพวกรวม 47 คน จำเลย กรณีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (คดีหวยบนดิน) ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 25 กรกฎาคม 2561