รถไฟขบวนที่ 12 ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) แล่นผ่านสถานีระหว่างทางมาแล้วกว่า 56 ปี ตั้งแต่แผนฯ ฉบับแรก เมื่อปี 2504 ในยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ในวาระที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้า คสช.กล่าวเปิดหัวการประชุม เรื่อง “ขับเคลื่อนแผนฯ 12 สู่อนาคตประเทศไทย” ปลุกใจข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ในช่วงนับถอยหลังรัฐบาล-คสช.
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ประเทศไทยกำลังเดินเข้ามาสู่เส้นชัย หลังหยุดเดินเป็นเวลานาน หยุดเดินเท่ากับเดินถอยหลัง ประเทศอื่นเดินไปข้างหน้า วันนี้เป็นการเริ่มต้นเดินขั้นที่หนึ่ง เพื่อไปสู่ขั้นที่สอง ขั้นที่สาม ตามแผนฯ ในอีก 20 ปีข้างหน้า
“แผน 20 ปี ไม่ได้ไปผูกมัด ใครเป็นรัฐบาลก็ทำได้หมด เพียงแต่ตีกรอบไว้ให้สามารถเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย เป็นประเทศพัฒนาแล้ว”
วันนี้จะไม่พูดถึงเรื่องเดิมที่ผ่านมา แต่ให้เปรียบเทียบว่า ที่ผ่านมาเคยมีแบบนี้หรือไม่ ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง ถ้ายังคิดแบบเดิม ยังติดอยู่กับปัญหาเดิม มันก็ไปไหนไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์เปรียบประเทศคล้ายกับคนเพิ่งเริ่มหัดเดิน จึงต้องปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆ ให้คลี่คลาย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการแก้ไข แผนฯ ทุกแผนดีหมด แต่ปัญหา คือ ทำไม่ได้
“จะทำอย่างไรให้มีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีความปรองดองทุกคนมีที่ยืนอย่างสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์”
“พล.อ.ประยุทธ์” ฉายภาพโรดแมปขั้นที่สองที่จะขับเคลื่อนผ่านคณะทำงาน “คู่แฝด” ยุทธศาสตร์ชาติ-ปฏิรูปประเทศ อย่างน้อย 5 ปี เป็นความหวังว่า ต้องสำเร็จและผ่านวิกฤตไปให้ได้
“วันนี้ต้องทำสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเป็นมูลค่ากลับมาสู่ประชาชน ถ้าไม่ทำอะไรใหม่ไว้เลยก็จะอยู่กับวงจรแบบนี้ ถ้าไม่ลงทุนแบบนี้ไว้ ไม่มีทางได้กลับมาแน่นอน”
ก่อนจะทิ้งทุ่นระเบิดไปยังนักการเมืองทุกขั้วข้างทั้งเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ว่าอย่าเอามาตีรวมกันทั้งหมด ต้องช่วยกันปฏิรูป ไม่ใช่ไปฟ้องร้องกันไปหมด วันนี้แผนทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องทำ เพราะจะไม่เป็นแบบเดิม 30 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรไว้เลย
“ทำไมต้องมาทำรัฐบาลนี้ นี่ไงบทเรียนของการไม่ทำตามแผน กลัวว่าเขียนไปแล้วจะไม่ได้ทำของตัวเองใช่หรือไม่ ที่เคยคิดจะไปทำ คิดจะไปหว่านตรงโน้น ตรงนี้”
“แกนแก่นของการปฏิรูปประเทศ ให้ประชาชนมีความสุข อย่างที่อาสาเข้ามาว่าจะทำเพื่อเขา ไม่ใช่เข้ามาเพื่อผลประโยชน์ เข้ามาเพื่อให้อะไรกับเขา นั่นคือหน้าที่ของนักการเมือง”
พล.อ.ประยุทธ์ โยนคำถามดัง ๆ ข้ามโลกไปถึง “คนแดนไกล” ที่ยังเป็นหนามยอกอกว่า” ต้องไม่ไปด่าประเทศของตัวเองที่ต่างประเทศ น่ารังเกียจ แก้ปัญหาเหนื่อยกันแทบตาย ทุกคนเหนื่อย แล้วไปประจานตัวเอง ประจานประเทศไทย”
