“บิ๊กตู่” ลั่นไม่เคยน้อยใจ ฉะโซเชียล ด่ากันไปมา ไม่รับผิดชอบ ทำสิ่งดีๆ ล้มหายหมด

แฟ้มภาพ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 มิถุนายน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างมอบนโยบายข้าวให้กับผู้นำชาวนา องค์กรชาวนา ที่ได้รับรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นด้านข้าว ประจำปี 2561 และตัวแทนชาวนารุ่นใหม่ว่า วันนี้หากทุกคนใจร้อน อยากได้อะไรดีๆ เร็วๆ ด่วนๆ ท้ายสุดก็กลับมามีปัญหาทั้งสิ้น รัฐบาลไม่อยากจะทำอะไรที่แก้ปัญหาอย่างง่ายๆ หากเดือดร้อนแล้วให้เงินไป แต่วัดสัมฤทธิ์อะไรไม่ได้เลย ขณะเดียวกันสังคมวันนี้หลายอย่างมีปัญหา โดยเฉพาะสังคมในโซเชียลมีเดียที่ด่ากันไปด่ากันมาทุกวันตนไม่เห็นว่าจะได้สาระอะไรทำให้สิ่งที่ดีๆ ล้มไปหมด เพราะซึ่งเกิดจาก 2 อย่าง คือ การเมืองและความเพลิดเพลินในการเล่นโซเชียลมีเดียโดยไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นขออย่าให้การเมืองนำ แต่ต้องใช้สติปัญญาและความคิดในการทำงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยได้ประโยชน์จากข้าว เพราะตนเป็นประธานเองและเข้าประชุมทุกครั้ง อะไรที่ไม่เข้าคณะกรรมการก็จะไม่อนุมัติให้ ทุกอย่างเปิดเผยทั้งหมด มีการประมูลที่หน้าคลัง หากใครไม่ไปร่วมแล้วมาบอกว่าไม่ยุติธรรมไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นการงุบงิบเปิดแล้วใส่ซอง อีกทั้งคนที่เคยได้แล้วไม่ได้ ก็หาว่ารัฐบาลไม่เป็นธรรมได้เงินมา 4 หมื่นล้าน จากการขายข้าว 2 ล้านตัน แล้วเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ที่ไหน แล้วยังบอกว่ารัฐบาลจะเอาเงินนี้ไปทำการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เละไปหมด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้แม้ตนไม่ได้เรียนด็อกเตอร์ แต่คิดและอ่านหนังสือ รวมถึงอ่านโซเชียลมีเดียและสื่อที่มีทั้งด่าและชม แต่ส่วนใหญ่ด่ามากกว่า ตนไม่เคยน้อยใจจะรู้เองว่าวันหน้าเกิดอะไรขึ้น เพราะตนทำวันนี้เพื่อวันหน้าและไม่ได้โทษใคร ซึ่งการไปสู่ประชาธิปไตยต้องสงบและเรียบร้อย การตีกันไปมาจะเลิกได้ไม่ได้ก็มีผลกระทบกับทุกคน ประท้วงกันไปมารัฐบาลก็ไม่สามารถทำงานหรือแก้อะไรต่อได้ จึงขอให้เลิกได้แล้วการประท้วงแบบเดิม ขออย่าเข้าไปร่วม ทั้งนี้ประชาธิปไตยไม่ใช่แก้ทุกอย่างได้ทั้งหมด แต่มีความจำเป็น เพราะโลกเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องมองว่าประชาธิปไตยของเราควรเป็นแบบใด จะเป็นแบบเดินหรือไม่ จึงต้องร่วมมือกัน ซึ่งประชาธิปไตยต้องดูแลทั้งคนส่วนใหญ่และส่วนน้อยโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

ที่มา : มติชนออนไลน์

Advertisment