เพื่อไทยพลิกโฉม เปิดเสนอชื่อผู้ท้าชิงหัวหน้าพรรค ก่อนโหวตนอกโผ “ทักษิณ” 28 ตุลาฯนี้ ลงเลือกตั้งคู่ “เพื่อธรรม”

แฟ้มภาพ

พรรคเพื่อไทย จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาหัวหน้าพรรค แบบเปิด เป็นครั้งแรก ก่อนถึงวันนัดเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2561 หลังคำนวณ ส.ส.แบบใหม่ ตัวเลขหด และเสี่ยงที่พรรคจะถูกยุบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย (พท.) ในวันที่ 3 ตุลาคม 2561 นี้ กรรมการบริหารชุดเดิม ซึ่งมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค จะมีวาระหารือเกี่ยวกับการจัดทำข้อบังคับพรรค อุดมการณ์พรรค ซึ่งก่อนการเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2561 นี้ จะมีวาระการเปิดให้สมาชิก เสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อแข่งขันกันภายในพรรคด้วย โดยสมาชิกจะเสนอกี่ชื่อก็ได้

ถือเป็นการพลิกธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมาของพรรคเพื่อไทย ไปอย่างสิ้นเชิง และนับว่าเป็นการหยั่งเสียง  และเปิดให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม เลือกหัวหน้าพรรค ตามแนวทางประชาธิปไตยเป็นครั้งแรก ต่างไปจากอดีต ที่จะมีการเสนอชื่อโดยครอบครัว “ชินวัตร” ร่วมกับครอบครัว “วงศ์สวัสดิ์” หรือ ชื่อที่ “นายทักษิณ ชินวัตร” นำเสนอ จึงจะได้เป็นหัวหน้าพรรค หรือเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 เพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  

โดยในวันที่ 28 ตุลาคม 2561 จะเป็นการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 11 ปี (จดทะเบียน 20 กันยายน 2550) เปลี่ยนแปลงกรรมการมาแล้ว 5 ชุด โดยกรรมการชุดที่ 5  รับหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 – 16 มิถุนายน 2557 และรักษาการมาจนถึงปัจจุบัน

การเปิดให้เสนอชื่อหัวหน้าพรรค เพื่อให้สมาชิกคัดเลือก ครั้งนี้ อาจเป็นเพราะมีกระแสข่าวว่า มีการเคลื่อนไหวของอดีต ส.ส.เพื่อไทย ให้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อธรรม เพราะ 2 เหตุผล คือ 1.พรรคเพื่อไทย เสี่ยงที่จะถูกยุบพรรค 2.การนับคะแนนเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ จะทำให้พรรคเพื่อไทย แพ้การเลือกตั้ง ได้ส.ส.ระบบเขตน้อยลง (จากเดิมเลือกตั้ง 2554 ได้ส.ส.ระบบเขต 204 คน+บัญชีรายชื่อ 61 คน รวม 265 คน)  และอาจไม่มี ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ เพราะการนับคะแนนแบบ “จำนวนส.ส.พึงมี” จะทำให้ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อของเพื่อไทย “สอบตก” โดยปริยาย แม้จะอยู่ในลำดับต้นๆ

ทำให้กรรมการบริหารพรรคหลายคนหารือกันและได้ข้อสรุปว่า จะมีนักการเมืองบางส่วนปักหลักทำพรรคเพื่อไทยต่อไป แต่จะต้องเปิดให้บรรดานักการเมืองเก่าและอดีตรัฐมนตรี เข้ามาเป็นหัวหน้ากรรมการบริหารพรรค เป็นตัวจริง-เสียงจริง เพื่อให้ฐานเสียงและมวลชนที่สนับสนุนเห็นว่าพรรคเพื่อไทย ยังจะเดินหน้าทำพรรคการเมือง เพื่อลงสู่สนามเลือกตั้งในครั้งต่อไป โดยอาจจะมียุทธศาสตร์ทำพรรคการเมืองคู่ขนานกับการดำเนินการของพรรคเพื่อธรรม ซึ่งจะเป็นพรรคใหม่ขนาดกลาง ที่มี ส.ส.ระบบเขต+ระบบบัญชีรายชื่อ ประมาณ 50 คน หรือมากกว่านี้ หากมีแคมเปญ ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นพรรคเครือข่ายเพื่อไทย

ซึ่งกรรมการบริหารชุดใหม่ของพรรคเพื่อธรรม ส่วนใหญ่เป็นอดีตแกนนำของพรรคพลังประชาชนและเพื่อไทย อาทิ  นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีนางนลินี ทวีสิน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรองหัวหน้าพรรค นายพงศกร อรรณนพพร เลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ โตวิริยะเวช รองเลขาธิการ นายวัชชัย ไทยเจียมอารีย์ เหรัญญิก ดร.เอราวัณ ทับพลี โฆษกพรรค พล.ต.ต.จรัญ ชิตะปัญญา พ.ต.อ.มานัส ศัตรูลี้ ที่ปรึกษาพรรค ว่าที่ รต.หญิงจุฑามาศ ทัดดี เป็นนายทะเบียน

โดยนายสมพงษ์ กล่าวในวันที่ได้เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมาว่า “พรรคเพื่อธรรม ยินดีหากสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะมาร่วมงานด้วย”