ตีตราจอง ! “บิ๊กตู่”ยังกั๊ก นั่งนายกฯใน บัญชี พปชร. ให้คำตอบก่อนเส้นตาย

ตีตราจอง ! “บิ๊กตู่” ยังกั๊ก นั่งนายกฯ ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ  อ้าแขนรับคำเชิญทุกพรรค พร้อมให้คำตอบก่อนเส้นตาย 8 ก.พ. 2562

เมื่อวันที่ 1 ก.พ.เวลา 16.15 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ได้เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อส่งหนังสือเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาอยู่บัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรค ลำดับที่ 1

ต่อมาภายหลังใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง แกนนำพรรค พปชร.ทั้ง 4 คน จะเดินออกมาจากตึกไทยคู่ฟ้าและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่รอเสนอข่าวบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยนายอุตตม กล่าวภายหลังเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรค ว่า บรรยากาศการพูดคุยวันนี้ดีมาก เรานำเอกสารสรุปนโยบายและเอกสารความเป็นมาของพรรค มาเสนอให้นายกฯ ประกอบการพิจาณา ซึ่งนายกฯ กรุณารับเรื่องไว้และได้เปิดนโยบายดู พร้อมบอกว่าเดี๋ยวขอไปคิดดูในรายละเอียดอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ท่านพร้อมจะให้คำตอบ โดยมีเวลาถึงวันที่ 8 ก.พ.

ทั้งนี้ นายกฯ ฝากประเด็นสำคัญคือ การที่เราจะทำการเมืองขอให้ทำอย่างสร้างสรรค์ เน้นการปรองดอง การแข่งขันย่อมมีเกือบทุกพรรค แต่อยากเห็นการทำการเมืองของทุกพรรคเน้นประโยชน์ของประชาชนสูงสุด แข่งขันกันในกฎเกณฑ์กติกา นายกฯ ได้ฝากพวกเราในฐานะทำงานการเมือง

เมื่อถามว่า ฟังแนวโน้มแล้วคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราตอบในส่วนของนายกฯ ไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเราคาดว่านายกฯ จะพิจารณารับคำเชิญของพรรค เมื่อถามว่า นโยบายที่นำเสนอไป จะสอดคล้องกับความคิดของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมา นายอุตตม กล่าวว่า เราเชื่อว่านโยบายของเราไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำมา แต่แน่นอนว่าพรรคมีนโยบายของพรรคเป็นหลัก จึงนำมาเสนอนายกฯ ซึ่งนโยบายหลายส่วนเป็นของใหม่ ก็ต้องให้โอกาสนายกฯ พิจารณา

Advertisment

เมื่อถามว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับเทียบเชิญในบัญชีนายกฯ เราจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายอุตตม กล่าวว่า ในเรื่องนี้ขอให้นายกฯ พิจารณาก่อน อย่าเพิ่งไปพูดว่านายกฯจะไม่รับ พรรคมีความพร้อมสำหรับทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้จะให้ไปพูดก่อนคงไม่เหมาะสม ต้องให้เกียรตินายกฯ พิจารณา

เมื่อถามว่ามีนโยบายใหม่ๆในการสร้างความปรองดองอย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคนี้เกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสังคมไทย จุดยืนของพรรคต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง และพรรคเราไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร จะไม่ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับใครด้วย แต่จะสร้างความสมานฉันท์ เพื่อให้การเมืองไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างราบรื่น

เมื่อถามถึงเสียงท้วงติงที่นายกฯใช้สถานที่ราชการต้อนรับทั้ง 4 คนนั้น นายอุตตม กล่าวว่า เราได้ประสานกับคณะทำงานของนายกฯและได้รับแจ้งให้เข้าพบเพื่อเทียบเชิญที่สถานที่ทำงาน หลังเวลาราชการ ทั้งนี้ นายกยังได้ฝากบอก ว่าพร้อมต้อนรับทุกพรรค ไม่ได้เจาะจงพรรคใดพรรคหนึ่ง พรรคการเมืองใดมีความประสงค์จะมาพบเพื่อเทียบเชิญ นายกฯพร้อมต้อนรับ เช่นเดียวกับพรรคเรา การเข้าพบวันนี้ไม่ได้อ้อนใดๆ ขณะที่นายกฯก็แสดงความน่ารักอย่างมาก

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการนัด พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อหาหรืออีกเรื่องนโยบายอีกหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า หากนายกฯสนใจ ต้องการลงในรายละเอียดของนโยบายพรรค เราก็พร้อมนำเสนอ และหากนายกฯสนใจ แต่จะขอปรับเปลี่ยนนโยบาย ก็ได้อยู่แล้ว

Advertisment

เมื่อถามว่า ในระหว่างนี้ที่รอการตอบรับพรรคจะนำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปหาเสียงหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า คงไม่ทำอย่างนั้น ในช่วงนี้ เราจะไม่ใช้ชื่อของท่านในการหาเสียงในตอนนี้แน่นอน

ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นายกฯ เองเปิดกว้างและฝากบอกว่า พรรคใดที่จะเรียนเชิญ ท่านก็เปิดกว้างในการที่จะรับหนังสือเชิญ ไม่ใช่เฉพาะพรรค พปชร. ส่วนที่นายกฯ จะตัดสินใจอย่างก็แล้วแต่ดุลยพินิจ เพราะนายกฯ อยากเห็นประชาธิปไตยที่เปิดกว้าง ไม่ใช่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หากมีพรรคใดที่ประสงค์นายกฯ ก็ยินดี เพื่อให้ทุกฝ่ายมาปฏิรูปการเมือง เข้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า เหตุใดจึงคิดว่า ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จะขายได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การเสนอผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งของพรรค เราต้องดูว่าบุคคลผู้นั้น เหมาะสมกับบริบทการเมืองปัจจุบันหรือไม่ มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ได้รับศรัทธาจากประชาชน และมีความซื่อสัตย์สุจริตที่พิสูจน์ได้หรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน จึงเป็นเหตุผลที่พรรคนำเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อถามว่า เพราะเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์จึงเป็นตัวเลือกที่จะดึงดูดคะแนนเสียงได้ เนื่องจากการเป็นอดีตนายทหาร อาจส่งผลลบต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง นายอุตตม กล่าวว่า ทางพรรคเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่เหมาะสมต่อการเป็นผู้นำประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงความสามารถในการนำพาประเทศผ่านช่วงที่ยากลำบากไปได้ ประเทศไทยมีการเติบโตทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคม และไม่ถูกทิ้งข้างหลังในโลกที่เราอยู่อาศัยนี้ นอกจากนี้ ทางพรรคยังเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่มีคุณธรรม และได้แสดงออกมาให้เห็นแล้ว และยังมีความซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากสำหรับบุคคลจะเป็นผู้นำประเทศไทย ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ ทางคณะกรรมการพรรคจึงสรุปว่า ทางเราควรนำเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพปชร. กล่าวว่า นายกฯได้เปิดดูนโยบายที่เรานำไปให้ท่านประกอบการพิจารณา ว่าเราจะทำอะไรบ้าง และนายกฯได้ขอเวลาพิจารณา โดยระบุว่าตัวท่านเองก็พร้อม และถ้าหากจะมีพรรคอื่นสนใจจะเชิญท่านอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ สามารถมาหาท่านที่ทำเนียบรัฐบาลได้เช่นกัน เพราะนี่คือที่ทำงานของท่าน แต่ให้มานอกเวลาราชการ อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกตื่นเต้น เพราะเดี๋ยวจะมีคนมาแย่งกับเรา คงต้องลุ้นกันอีกประมาณ 1 สัปดาห์