“ปิยบุตร” ยันเชิดชูคนอีสาน ไม่เคยดูถูก ท้า “ศรีสุวรรณ” ดูคลิปเต็ม

“ปิยบุตร” หนุน “ศรีสุวรรณ” ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ – นักการเมือง แต่อย่าใช้เป็นเครื่องมือกำจัดพรรคที่ไม่ชอบ ยันเชิดชูคนอีสาน ไม่เคยดูถูก ท้าดูคลิปเต็ม

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบอนค.โดยกล่าวว่า ตนชื่นชมบทบาทของนายศรีสุวรรณ ที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการฟ้องร้องคดีต่อศาล และใช้บทบาทของความเป็นพลเมืองที่ขยันขันแข็งในการตรวจสอบอำนาจรัฐ ยังจำได้ว่าเมื่อคราวที่นายศรีสุวรรณถูกศาลปกครองสูงสั่งลงโทษจำคุก 14 เดือน และปรับ 7 แสนบาท แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ก่อน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้น นายศรีสุวรรณได้รณรงค์ระดมเงินสนับสนุนเพื่อนำไปจ่ายค่าปรับ ตนได้ร่วมโอนเงินระดมทุนและชักชวนคนอื่นๆ ให้ร่วมระดมทุนให้กับนายศรีสุวรรณด้วย เพราะเห็นใจนายศรีสุวรรณ ต้องการให้กำลังใจ และตนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล สนับสนุนให้ประชาชนมีเสรีภาพในการวิจารณ์การตัดสินของศาลได้อย่างเต็มที่ ในฐานะที่ศาลเป็นหนึ่งในองค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตยซึ่งเป็นของประชาชน เสรีภาพในการแสดงความเห็นจะช่วยตรวจสอบการทำงานของศาลได้

“แม้วันนี้ นายศรีสุวรรณได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อตรวจสอบพรรคอนาคตใหม่ โดยเจาะจงมาที่นายธนาธร และผม แต่ผมก็ยังคงชื่นชมบทบาทและความกระตือรือร้นของนายศรีสุวรรณ นี่คือ ตัวอย่างของพลเมืองที่ทำหน้าที่ตรวจสอบบุคคลสาธารณะ เมื่อนายศรีสุวรรณต้องการตรวจสอบนายธนาธร ผม และพรรคอนาคตใหม่ พวกเราในฐานะคนที่อยู่ในวงการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะ ก็พร้อมในการถูกตรวจสอบ และยินดีที่จะชี้แจงให้กระจ่างชัด” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า กรณีการลงประวัติของนายธนาธรในเว็บไซต์ของพรรค หัวหน้าพรรค โฆษกพรรค และตนได้ชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า เป็นความผิดหลงเล็กน้อยที่ลงประวัติผิดพลาดไป นายธนาธร และแกนนำพรรคไม่ทราบว่ามีข้อความผิดพลาดนี้เลย จนกระทั่งปรากฏให้เห็นในโลกโซเชียลมีเดีย พรรคก็รีบแก้ไขทันที ตั้งแต่ก่อตั้งอนค. ตนไม่เคยเห็นหรือได้ยินนายธนาธรหรือพรรคอ้างว่า นายธนาธรเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เราไม่เคยใช้ในการรณรงค์หาเสียง คะแนนนิยม ความชื่นชอบที่นายธนาธรได้รับทุกวันนี้ มาจากจุดยืนที่มั่นคง อุดมการณ์ที่แน่วแน่ ความจริงจังจริงใจในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น เรื่องเหล่านี้ต่างหากที่ปลุกความหวังให้กับผู้คนในสังคม หากการเขียนถ้อยคำผิดพลาดจะส่งผลให้พรรคถูกยุบ หรือหัวหน้าพรรคต้องติดคุกได้ มีความผิดได้ ต่อไป นักการเมือง ส.ส. ส.ว. รัฐมนตรี สื่อ เอ็นจีโอ ข้าราชการ บุคคลสาธารณะคนไหน พิมพ์ผิด หลง ก็คงต้องโดนกันหมด หากจะเล่นกันแบบนี้ ก็จะเป็นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง จนเพี้ยนกันไปหมด และคงน่าอับอายต่อสาธารณชนและนานาอารยะประเทศ

นายปิยบุตร กล่าวถึงกรณีที่เคยเรื่องปราศรัยว่า รัฐสร้างภาพลักษณ์ให้คนอีสานเป็นคนตลก ไม่มีความรู้นั้น ว่า ภาคอีสานเป็นภาคที่ตนเองเดินทางไปมากที่สุดและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากที่สุด เมื่อตอนเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางไปบรรยาย ร่วมเสวนา รณรงค์ทำกิจกรรมประชาธิปไตย เมื่อมาตั้งอนค. ก็เดินทางไปภาคอีสานมากที่สุด รับมอบหมายให้ไปรณรงค์หาสมาชิก เสวนา ปราศรัย และรับฟังประเด็นปัญหาต่างๆ คนอีสานที่ไปพบปะและที่เป็นสมาชิกพรรค คงเป็นประจักษ์พยานได้อย่างดีว่า ตนไม่เคยดูถูกคนอีสานแม้แต่ครั้งเดียว เวลาที่มีใครพูดดูถูกคนอีสาน จะเป็นคนแรกๆ ที่ออกไปอธิบายทำความเข้าใจให้ทุกครั้ง โดยชี้ให้เห็นถึงปัญหาทางโครงสร้าง ปัญหาของการจัดการของรัฐไทยตั้งแต่อดีต

“การปราศรัยที่สกลนคร ผมพูดนโยบาย ยุติราชการรวมศูนย์ และ ทวงคืนอำนาจให้ท้องถิ่น โดยย้อนกลับไปพูดถึงปัญหาการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินไทย ในยุคสมัยหนึ่งที่รวมอำนาจเข้าส่วนกลางและเมืองหลวง แล้วส่งคนไปปกครองตามเมืองต่างๆ และยังคงหลงเหลือมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
พูดถึงความเหลื่อมล้ำทางโครงสร้างระหว่างภาคอีสานกับส่วนกลาง ภาคอีสานมีทรัพยากร มีคนอีสานที่มีศักยภาพ แต่กลับถูกโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำกดดทับเอาไว้ ผมพูดถึงการสร้างวาทกรรมในอดีตที่ทำให้คนอีสานถูกกดทับ ผมพูดถึงคนอีสานที่เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เสรีภาพ ความเสมอภาค คนอีสานผู้ไม่ยอมจำนนกับเผด็จการและการกดขี่ ผมยกย่องวีรกรรมอาจหาญของครูเตียง ศิริขันธ์ ครูครอง จันดาวงศ์ และรำลึกประวัติศาสตร์การสังหารจิตร ภูมิศักดิ์ ปัญญาชนสยามหัวก้าวหน้า ที่บ้านหนองกุง วิญญูชนผู้มีจิตใจเป็นธรรม ไม่หลงเชื่อการสร้างข่าวเท็จของ IO คงตัดสินได้ว่า ไม่มีข้อความใดเลยที่ผมดูถูกคนอีสาน หากคุณศรีสุวรรณหรือใครอยากพิสูจน์ ผมอยากเชิญชวนให้ฟังคลิปการปราศรัยตัวเต็ม” นายปิยบุตร กล่าว

Advertisment

นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนสนับสนุนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบุคคลสาธารณะ แต่การตรวจสอบต้องทำโดยสุจริต เพื่อประโยชน์สาธารณะ มิใช่ตรวจสอบเพื่อเปิดช่องทางให้มีการนำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อกำจัดนักการเมือง พรรคการเมือง ที่ตนเองไม่ชอบ เกลียด กลัว

 

 

 

Advertisment

 

ที่มา มติชนออนไลน์