ยังปิดดีลไม่จบ! “ศักดิ์สยาม” สั่งตัดด่วนชั้นที่ 2 ลดเวลาสัมปทาน BEM ไม่ถึง 30 ปี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขข้อพิพาทระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ขอเวลาอีก 7 วัน เพื่อไปพิจารณารายละเอียดข้อพิพาทอีกครั้ง

“ได้มอบนโยบายไปว่า ให้ลองพิจารณาว่าหากไม่มีการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่2 หรือdouble deck รายละเอียดข้อพิพาทจะเป็นอย่างไร จะขยายอายุกี่ปี เพราะตนเห็นว่า double deck ไม่มีความจำเป็น และไม่ได้ถูกระบุไว้ในสัญญาตั้งแต่แรก “

พร้อมทั้งให้นำข้อมูลจากกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนมาพิจารณาร่วมด้วย เรื่องของตัวเลขต่างๆ ส่วนกรณีที่กรรมาธิการฯเห็นด้วยกับการต่อสัมปทานให้ BEM ก็ถือว่าเป็นเรื่องของกรรมาธิการ แต่ผมยังต้องการให้มีการพิจารณาเพิ่มเติมเรื่องการจะทำหรือไม่ทำ double deck

“คณะทำงานขอเวลาอีก 1 สัปดาห์ไปดูเรื่องตัวเลข โดยเน้นดูแค่ว่าจะทำหรือไม่ทำ double deck แต่ผมบอกแล้วว่าผมไม่เอา เพราะ double deck ไม่ได้อยู่ในสัญญา” นายศักดิ์สยาม กล่าว และว่า

ในวันที่29 ส.ค.2562 จะหารือร่วมกับคณะทำงานการต่อสู้คดีโฮปเวลล์ ที่มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน และอัยการสูงสุด และจะมีการพิจารณาแนวทางเรื่องข้อพิพาททางด่วนBEMด้วย เพราะถือว่าเป็นคดีค่าโง่เหมือนกัน

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเย็นวันที่26 ส.ค.ที่ผ่านมากลังคณะทำงานได้เสนอ 3 แนวทางให้นายศักดิ์สยามพิจารณา คือ 1.ยืนมติบอร์ดกทพ.ขยายสัญญา 3 โครงการ 30 ปี 2.ยกเลิกการสร้างdouble deck ลดระยะเวลาสัมปทานเหลือ20ปี และ3.สู้คดีต่อ

โดยนายศักดิ์สยามให้การบ้านคณะทำงานเพิ่มโดยไม่ให้มีการนำdouble deckมารวมในการเจรจาด้วยเพื่อที่เอกชนจะได้เวลาสัมปทานเพิ่ม และให้ไปพิจารณาให้กทพ.นำงบประมาณสร้างเองและลดเวลาสัมปทานลงมาและให้ประชาชนได้ประโยชน์จากการต่อสัมปทานครั้งนี้เช่น การลดค่าผ่านทาง

อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันช่วงหัวค่ำนายศักดิ์สยามได้มีการเชิญนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ มาหารือนอกรอบด้วย แต่ก็ไม่สามารถปิดดีลได้ โดยBEMไม่ยอมให้ตัดdouble deck ถ้าตัดต้องได้ขยายเวลา 20ปี จากผลเจรจาเดิมถ้าdouble deckไม่ผ่านรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจะได้การขยายสัมปทานด่วนขั้นที่2(A ,B ,C ) ระยะเวลา15ปี8เดือน ส่วนทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และ ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ดจะไปหมดสัญญาพร้อมกันวันที่ 31 ต.ค.2578