ประชานิยม “ศักดิ์สยามโมเดล” รื้ออายุรถตู้-แบริเออร์หุ้มยางพารา-ซิ่ง 120

เข้ามาเป็นรัฐมนตรีแค่สมัยแรกก็เป็นที่พูดถึงทันทีในช่วงเวลากว่า 5 เดือน สำหรับ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เจ้ากระทรวงคมนาคมคนปัจจุบัน จากพรรคภูมิใจไทย เจ้าของฉายา “โอ๋ แซ่รื้อ”

ย้ำภาพสะท้อนที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ตั้งแต่เข้ามาก็ใส่เกียร์ห้าเดินหน้า ทั้งปรับ แก้ รื้อ ทบทวน สารพัดโปรเจ็กต์ ยันตั้งผู้บริหารทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดทั้งยวง

ยังจี้ทุกองคาพยพให้นำนโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยไปขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม เช่น Grab ถูกกฎหมาย, ลดค่าครองชีพ จนบรรดาบิ๊ก ๆ ไฟลนก้น จากนโยบายสายฟ้าแลบ

ลุยลดค่าครองชีพ-รื้อรถตู้

พลันที่ “ศักดิ์สยาม” เข้ามาก็ประกาศแพ็กเกจนโยบายออกมาหลากหลาย ที่เป็นไฮไลต์มี 2 นโยบาย นั้นคือ ลดค่าโดยสารทุกโหมดเดินทางมอบเป็นของขวัญส่งท้ายปี เช่น ปรับลดค่ารถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน เหลือ 14-20 บาท หากข้ามระบบไปสายสีน้ำเงินจะเสียสูงสุด 48 บาท ถึงวันที่ 31 มี.ค.นี้

ลดราคารถเมล์ 2 บาท ให้ผู้ถือบัตรโดยสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ สูงสุด 15 ครั้ง/บัตร/เดือน ถึงวันที่ 31 ม.ค.นี้ ลดค่าผ่านทางทางด่วนทุกด่าน 5% ตลอด 24 ชม. เฉพาะผู้ใช้บัตร Easy Pass เป็นระยะเวลา 1 เดือน ส่วนผู้ใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ลดค่าคูปองค่าผ่านทาง 5% เป็นเวลา 6 เดือน

ที่น่าจะมีเสียงวิจารณ์มากกว่าชื่นชม กับการทบทวนเปลี่ยนรถตู้เป็นมินิบัส เดิมกำหนดอายุรถตู้ไม่เกิน 10 ปี ขีดเส้นตายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีอยู่ 1,175 คัน จะต้องโละเปลี่ยนเป็นมินิบัสในวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่หลัง “ศักดิ์สยาม” เข้ามาได้แตะเบรก แถมขยายอายุใช้งานเป็น 12 ปี พร้อมเปลี่ยนจาก “ภาคบังคับ” เป็น “ภาคสมัครใจ” แทน

เคาะ Grab ถูกกฎหมาย

ขณะเดียวกันมีนโยบายที่คนจับตากันไม่กะพริบจะสัมฤทธิผลในปี 2563 ดังที่ลั่นวาจาไว้หรือไม่ โดยเฉพาะการบริการรถโดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชั่น หรือ Grab ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นนโยบายที่คนรอกันมานานนับแต่ที่แอปเหล่านี้บังเกิดในประเทศไทย ทั้ง”Grab และ Uber” ที่เป็นตัวชูโรง ที่นับวันจะมีผู้ใช้บริการมากขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจุบันรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ ได้แก่ 1.กฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างผ่านแอปพลิเคชั่น และ 2.กฎกระทรวงว่าด้วยกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และออกใบอนุญาตนิติบุคคลที่ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการรับจ้างบรรทุกผู้โดยสาร ในเดือน ม.ค.นี้ จากนั้นเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ และให้ ครม.รับทราบอีกครั้งก่อนประกาศเป็นกฎหมาย ไม่เกินเดือน มี.ค.นี้ น่าจะได้ใช้ Grab ถูกกฎหมายแน่นอน

ชะลอยาวติด GPS

ที่เผ็ดร้อนสนั่นโซเชียล คือ ไอเดียติดระบบ GPS บนรถส่วนบุคคลทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ หลังให้กรมการขนส่งทางบกประสานกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้เกี่ยวข้อง เปิดรับฟังความคิดเห็น ให้รถใหม่ติดตั้งอุปกรณ์ GPS ออกมาจากโรงงานได้เลย ส่วนรถเก่าจะบังคับใช้ในลำดับต่อไป มีค่าบริการ 3,000 บาท แต่เมื่อเสียงค้านมากกว่าหนุนเลยทำให้โครงการชะลอรอ จนกว่ากรมการขนส่งทางบกจะศึกษาเรื่องเสร็จใน 6 เดือน

ก.พ.เกาหลีเคาะใช้ยางหุ้มแบริเออร์

อีก 1 ไอเดียที่ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว จากการนำผลผลิตยางพารามาหุ้มแบริเออร์ (rubber fender barrier) นอกจากช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ยังส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศ มีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เป็นแม่งาน ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)

ล่าสุดรอผลวิเคราะห์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ “ศักดิ์สยาม” จะเดินทางไปดูผลทดสอบด้วยตัวเองวันที่ 26-29 ก.พ.นี้ ไม่เกิน มี.ค.มีข้อสรุป และ ให้ 2 กรมถนนนำไปออกแบบเกาะกลางถนนจาก “หญ้า” เป็น “แบริเออร์หุ้มยางพารา” แทน คาดว่าจะกระตุ้นการใช้ยางพาราได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 ตัน

ทุ่มปรับถนนรับซิ่ง 120 กม./ชม.

ปิดท้ายที่ไอเดียปรับเพดานความเร็วรถวิ่งสูงสุด 120 กม./ชม.จากเดิม 90 กม./ชม. แม้จะเริ่มแผ่วปลาย ล่าสุด “สราวุธ ทรงศิวิไล” อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า จะนำร่องบนถนนสายเอเชีย ช่วงบางปะอิน-แยกหลวงพ่อโอ กม.2-กม.52 (บางปะอิน-อ่างทอง) กำลังเสนอร่างกฎกระทรวงให้ ครม.เห็นชอบเดือน มี.ค.นี้ และได้สั่งการให้ปรับปรุงสีตีเส้นและพื้นผิวพร้อมกันไปด้วย

หากส่วนแรกได้รับอนุมัติ จะเร่งเฟสต่อไปจากอ่างทอง-นครสวรรค์ทันที การจะทำให้สายเอเชียทั้งสายพร้อมรองรับความเร็ว 120 กม./ชม. ต้องปรับปรุงจุดกลับรถตามเส้นทางทั้งหมด โดยเฉพาะเกาะกลางที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพราะอยู่ถัดจากเลนขวาสุดที่วิ่งความเร็วสูง ซึ่งกรมมีแผนปรับปรุงจุดกลับรถเกาะกลางถนนสายเอเชีย 44 จุด ให้เป็นทางลอดกลับรถใต้ถนนแทน ใช้งบประมาณ 600 ล้านบาท เป็นเงินเหลือจ่ายงบฯปี 2563 และงบฯปี 2564 มีต้นทุน 15 ล้านบาท/จุด

ชงบิ๊กป้อมไฟเขียวความเร็วรถ

ล่าสุด “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เจ้าของไอเดีย จากปีที่แล้วเรียกนโยบายนี้ว่า “ปรับความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม.” มาปีนี้มีชื่อใหม่เก๋ไก๋ “สโลว์ สปีด” กล่าวย้ำว่า นโยบายนี้จะเป็นการปรับความเร็วรถที่วิ่งเลนขวา จากเดิมวิ่งไม่เกินความเร็ว 80-90 กม./ชม. ให้ทั้งกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทไปคัดเลือกถนนจะนำร่อง โดยเตรียมจะขอแก้กฎหมายเพิ่มความเร็วไปยังคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเป็นประธาน จะจัดประชุมในเดือน ก.พ.นี้ รวมถึงมาตรการจับปรับกรณีที่รถ “วิ่งช้า แช่เลนขวา” ที่จะบังคับใช้กับถนนทั่วประเทศด้วย มอบให้กรมทางหลวงประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะต้องออกเป็นกฎกระทรวงบังคับใช้ต่อไป