หยุดยาวคนเดินทางทะลัก 9 ล้านคน “คมนาคม” เสริมการขนส่งทุกโหมด 2.3 แสนเที่ยว

นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติกำหนดให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่องรวม 4 วัน ระหว่างวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2563 คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก ทางนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงได้มอบให้สนข. เป็นหน่วยงานหลักเพื่อเตรียมความพร้อมการดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน

ทั้งนี้ สนข. ได้บูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์และสรุปผลการดำเนินงาน พบว่า ภาพรวมสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนบนโครงข่ายของคมนาคม (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2563) มีการเกิดอุบัติเหตุรวม 369 ครั้ง

โดย การขับรถเร็วเกินกำหนดถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุสูง ถึงร้อยละ 71 สาเหตุรองลงมามาจากตัดหน้ากระชั้นชิดและหลับใน ซึ่งลักษณะของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น 3 ลำดับแรก ได้แก่ รถพลิกคว่ำ รถชนท้าย และรถชนกันหรือเฉี่ยวชน ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังพบว่า ถนนทางตรงมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด ถึงร้อยละ 67 เมื่อเทียบกับลักษณะทางประเภทอื่นๆ สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ชลบุรี 34 ครั้ง สุพรรณบุรี 23 ครั้ง และกรุงเทพมหานคร 21 ครั้ง

ทั้งนี้ สนข. คาดการณ์ปริมาณการเดินทางของประชาชนด้วยระบบขนส่งสาธารณะในช่วง 5 วัน ระหว่างวันที่ 24- 28 กรกฎาคม 2563 จะมีการจัดบริการขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ราง น้ำ และอากาศ รวมประมาณ 230,000 เที่ยว บริการรองรับผู้โดยสาร รวมประมาณ 9 ล้านคน อีกทั้งคาดว่าจะมีผู้เดินทางระหว่างจังหวัดมากขึ้นกว่าช่วงวันหยุดอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาที่ผ่านมา

โดยการเดินทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวม 5 วันสะสม จำนวน 6.9 ล้าน (คน – เที่ยว) ได้แก่ 1) รถประจำทาง จำนวน 3.88 ล้าน (คน – เที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 56 2) รถไฟฟ้า จำนวน 2.67 ล้าน (คน – เที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 43 และ 3) เรือด่วนเจ้าพระยา/คลองแสนแสบ จำนวน 0.07 ล้าน (คน – เที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 1

ในส่วนของการเดินทางระหว่างจังหวัดและในจังหวัด รวม 5 วันสะสม จำนวน 2.1 ล้าน (คน – เที่ยว) ได้แก่ 1) รถ บขส./รถหมวด 3 – 4 จำนวน 0.93 ล้าน (คน – เที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 44 2) เรือ จำนวน 0.55 ล้าน (คน – เที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 26 3) เครื่องบิน จำนวน 0.55 ล้าน (คน – เที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 16 และ 4) รถไฟระหว่างเมือง จำนวน 0.28 ล้าน (คน – เที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 14

สำหรับมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยฯ ในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2563 จะยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ ตามแนวทางหลักของช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ประกอบด้วย 2 แผนหลัก ได้แก่ แผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและแผนรองรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

เพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง อาทิ การบริการระบบขนส่งสาธารณะต้องเข้าถึงง่าย เพียงพอไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ไม่โก่งราคา ไม่ทิ้งผู้โดยสาร และทันกับเหตุการณ์

การสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในคุณภาพของการให้บริการขนส่งสาธารณะ ด้วยการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานีโดยสาร ภายในรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือโดยสาร และเครื่องบิน อย่างเข้มข้นและจริงจัง กำกับและควบคุม เพื่อป้องกันจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากการเดินทาง บริหารจัดการจราจรทางถนนให้มีความคล่องตัวและไม่ติดขัดอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในขนส่งสาธารณะรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ 2563

นอกจากนี้ยังบูรณาการร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการรถบรรทุกให้งดวิ่งช่วงวันหยุดดังกล่าว และทำการจัดระเบียบการจราจรบริเวณจุดขึ้นเนินต่างๆ โดยรถบรรทุกต้องวิ่งชิดซ้าย

ขอให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย คืนพื้นผิวจราจร และหยุดงานก่อสร้างในจุดต่างๆ เพื่อลดปัญญาการจราจรติดขัดและเร่งระบายรถในจุดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต่างๆ

ขอให้กรมทางหลวง จัดทำป้ายบอกระยะจุดพักรถล่วงหน้า เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบถึงระยะของจุดพักรถ บริเวณจุดพักรถ Rest Area บนถนน Motorway หมายเลข 7 เพื่อให้รถยนต์ที่ไปใช้บริการสามารถใช้ช่องทางด้านขวาได้

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางและช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน นายชยธรรม์ฯ กล่าวตอนท้ายว่า รัฐบาลได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา) และหมายเลข 9 (บางปะอิน – บางพลี) และยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก รวม 6 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 29 กรกฎาคม 2563

รวมทั้งเพิ่มการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน – ปากเกร็ด) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2563