AIS Academy ศูนย์กลางการเรียนรู้และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในของเอไอเอส ที่พัฒนาบุคลากรภายในองค์กรกว่า 13,000 คน โดยมีเป้าหมายในการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งต่อสู่สังคมไทย โดยนำจุดแข็งของแต่ละองค์กรในการผลักดันให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ด้วยเหตุนี้ AIS Academy จึงได้ผนึกกำลังร่วมกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เกิดเป็นโครงการ ‘ภารกิจคิดเผื่อ’ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 จนประสบความสำเร็จถึงปัจจุบัน โดยนำขีดความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการมีจิตอาสาของบุคลากรของคนเอไอเอส เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ไขวิกฤตประชากรของไทย
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
กานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ INTOUCH กล่าวว่า ในปีนี้เรายังคงเดินหน้าทำงาน โดยมีเป้าหมายสำคัญในการนำศักยภาพ จุดแข็งของพนักงานและองค์กร ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม มาส่งต่อและแบ่งปัน เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม ยกระดับขีดความสามารถประชาชนและสังคม ให้ผ่านพ้นวิกฤติประชากรได้อย่างยั่งยืน ด้วยแกนการทำงานในมิติต่างๆ คือ
- สร้างนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนพิการและผู้สูงอายุด้วยเครื่องมือทางเทคโนโลยีดิจิทัล
- สร้างทักษะ ยกระดับอาชีพ การต่อยอดและยกระดับการสร้างอาชีพ ผ่านโครงการ Train the Trainer โดยมีพนักงานของ AIS ในนามโค้ชอุ่นใจอาสา
- สร้างความรู้ เพื่อครอบครัวเข้มแข็ง ผ่านการเพิ่มพูนทักษะความรู้ในการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล ผ่านโครงการวัคซีนต้านภัย คนไทยแข็งแรง
- สร้างโอกาส ในการเข้าถึงความรู้อย่างยั่งยืน สร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมให้กับเด็กและเยาวชนของไทย ผ่านโครงการ ‘ห้องสมุดดิจิทัล ปันความรู้’ และโครงการ ‘แท็บเล็ตนี้ พี่ให้น้องเรียน’ รวมถึงการนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาส่งมอบให้คนไทย ผ่านงาน ‘Academy for Thais’
ด้านตัวแทนพนักงาน AIS อย่าง ปรเมศวร์ ฟูมูลเจริญ จากหน่วยงาน Innovation Incubation and Management เสริมว่า การที่เรารวมกลุ่มกันในนามโค้ชอุ่นใจอาสา สามารถสร้าง Impact ให้กับสังคมได้ชัดเจน เนื่องจากแต่ละคนจะมีความถนัดเฉพาะด้าน โดยสิ่งสำคัญคือการที่เราได้มอบองค์ความรู้ให้เจ้าหน้าที่ พม. เพื่อไปกระจายความรู้ต่อได้ทั่วประเทศ เปรียบเสมือนกับจิ๊กซอว์เล็กๆ ที่สำคัญนำมาประกอบกัน แล้วเกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
การผนึกกำลังครั้งสำคัญนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ในการสนับสนุนและเสริมการทำงานระหว่างกัน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างความเท่าเทียม อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างยั่งยืน
