พสกนิกรที่ดี …ของในหลวง

คอลัมน์ เอชอาร์คอร์เนอร์

โดย รณดล นุ่มนนท์ ธนาคารแห่งประเทศไทย

แม้งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะเสด็จสู่สวรรคาลัยไปเมื่อไม่นานผ่านมา แต่ภาพและบรรยากาศในงานพระราชพิธียังคงเป็นความโศกเศร้าที่ไม่จางหาย

ผมเองมีความรู้สึกแปลก ๆ เมื่อตื่นมาเช้านี้ (30 ตุลาคม 2560) ผมใส่ชุดทำงานตามปกติ แต่กลับหยิบเนกไทสีเหลืองมาใส่เพื่อรำลึกถึงพระองค์ท่าน

พร้อมกับน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

แต่เมื่อหยิบบทความที่ “Andrew Biggs” เขียนในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post เรื่อง “A Song that Unites Thais in Their Grief”

ตอนท้ายของบทความ เขาเขียนจบลงด้วยประโยคที่บอกว่า…My heart goes out to all my Thai friends and colleagues who are struggling with the realization that their beloved king is gone forever. I am truly sorry that they must endure their grief. But it is also time to move on. We have mourned for a year, and no matter how much the kingdom grieves, the mourning must come to an end. (1)

“ผมรู้สึกเคือง ๆ ว่าฝรั่งคนนี้ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนไทยเลย”

แต่ขณะกำลังจะถามความคิดเห็นจากคนใกล้ชิด เผอิญได้อ่านธรรมะเพื่อเตือนสติของ “พระไพศาล วิสาโล” เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ แนะนำหนทางสู่การตระหนักรู้ และทำในสิ่งที่ควร เพื่อเดินหน้าต่อไปในห้วงแห่งความโศกเศร้า ในหัวข้อ “รับมือกับความเศร้าโศกในยามสูญเสียจวบจนถึงเวลานี้”

โดยมีใจความตอนหนึ่งบอกว่า…อย่าจมอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจนาน เมื่อเราเศร้าโศกเพราะรักในหลวง ก็อย่าให้ความเศร้าโศกนั้นทำให้เราหลงลืมหน้าที่ของเรา หน้าที่ของเราที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การเป็นพสกนิกรที่ดีของในหลวง พสกนิกรที่ดีย่อมไม่ละเลยโอกาสในการบำเพ็ญประโยชน์ สร้างสรรค์คุณงามความดีให้แก่ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ

“ถ้าเรามัวแต่เศร้าโศก ซึมเซา เจ่าจุก หมดเรี่ยวแรงทำอะไร วันสองวันก็ไม่เป็นไรนะ มันเป็นธรรมดาของมนุษย์ แต่ถ้าเป็นเวลานานกว่านั้น ก็หมายความว่าเราละเลยหน้าที่ของเรา เรากำลังทำตัวให้เป็นภาระของคนอื่น”

“พยายามสลัดความเศร้าโศกออกไป เพื่อที่เราจะได้กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ ซึ่งหมายถึงการดูแลครอบครัว ทำหน้าที่การงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อประเทศชาติ อันนี้จึงจะเรียกได้ว่าเราเป็นพสกนิกรที่ดีของพระองค์ การรักในหลวงที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่แค่รักแต่ปาก หรือสักแต่ว่ารัก แต่ต้องพยายามทำตัวให้เป็นพสกนิกรที่ดี สืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ตามกำลังที่มี” (2)

ธรรมะเตือนสติของ “พระไพศาล วิสาโล” เบื้องต้น ทำให้ผมต้องคิดถึงพระราชกระแสที่พระองค์ท่านได้ให้แก่ชาวแบงก์ชาติไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาเปิดโรงพิมพ์ธนบัตรเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2512 ว่า…

“ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ทุกคนที่จะดำเนินการสำคัญนี้ต่อไป ได้ระลึกว่าท่านจะต้องมีภาระ และความรับผิดชอบอย่างหนัก และงานในหน้าที่ของท่านมีความผูกพันอยู่กับประชาชนทุกคน มีความสำคัญยิ่งทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการปกครองประเทศ ความบกพร่องใด อันจะเกิดขึ้น ย่อมกระทบกระเทือนถึงความมั่นคงของบ้านเมืองโดยตรง ดังนั้น ท่านควรสังวรในเรื่องความเสียหายดังกล่าวและพยายามใช้ความรู้ความสามารถ ความสุขุมรอบคอบ พร้อมทั้งความบริสุทธิ์ใจในการปฏิบัติงานอยู่เสมอเป็นนิจ” (3)

จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ชาวแบงก์ชาติทุกคนจะพึงตระหนักถึงภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบ เพื่อทำหน้าที่การงานให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และต่อประเทศชาติสืบไป

หมายเหตุ – ข้อมูลอ้างอิงจาก (1) Andrew Biggs, A Song that Unites Thais in Their Grief, Brunch Bangkok Post, Sunday, October 22, 2017

(2) พระไพศาล วิสาโล, รับมือกับความเศร้าโศกในยามสูญเสียจวบจนถึงเวลานี้, หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันอังคารที่ 24 ตุลาคม 2560 http://www.thaipost.net /?q=node/37183

(3) สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2550 พิมพ์ที่ อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หน้า 60