ปีทองแห่งข้อถกเถียงใน NBA ใครก็พูดถึง เจมส์ ฮาร์เดน

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

โลกอเมริกันเกมส์ปีนี้ สำหรับแฟนบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ต้องยกนิ้วให้กับฟอร์มการเล่นของเจมส์ ฮาร์เดน ชู้ตติ้งการ์ดของฮุสตัน ร็อกเกตส์ ซึ่งทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดฤดูกาล 2017-18 และสามารถพาทีมจบด้วยอันดับ 1 ของสายตะวันตกในฤดูกาลปกติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และยังฟอร์มดีต่อเนื่องในช่วงเพลย์ออฟ กลายเป็นผู้เล่นที่แฟนยกให้ว่าจะกลายเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าแทนที่ เลบรอน เจมส์

ฮุสตันที่ขาด คริส พอล จากปัญหาอาการบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาลจนหายหน้าไป 14 เกม แต่มาได้เจมส์ที่แบกทีมเอาไว้ เจมส์ ฮาร์เดน แทบเป็นเสาหลักของทีมที่จูงมือผู้เล่นรายอื่น และยกระดับผลงานในเกมของผู้เล่นร่วมทีมที่อาจไม่ได้ถูกจับตามองมากนัก ให้กลายเป็นนักยัดห่วงที่มีผลงานการเล่นดีขึ้นได้ด้วยศักยภาพการผ่านบอล และการเล่นกับบอล หลอกล่อคู่ต่อสู้ที่ดูเหมือนง่ายแต่ต้องบอกว่ามหัศจรรย์ เพราะทำได้บ่อยเหลือเชื่อ

การ์ดวัย 28 ปีโชว์ฟอร์มเข้าตามาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ฤดูกาลที่แล้วก็พลาดตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่าไปอย่างน่าเสียดาย จนปีนี้ เมื่อแฟนเห็นฟอร์มของ “หนุ่มเครา” หลังผ่านช่วงเวลาไม่น่าจดจำมาได้แล้วก็น่าจะบอกว่าสมควรแก่เวลาสำหรับฮาร์เดน จะรับรางวัลนี้เสียที ถึงแม้บรรดาคู่แข่งที่มีลุ้นชิงรางวัลนี้ต่างเร่งผลงานในงานท้ายฤดูกาลก็ตาม

ในอีกด้าน แฟนส่วนหนึ่งอาจถกเถียงว่า คนที่เชียร์ฮาร์เดนให้ได้รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่ามองว่าปีนี้เขาควรได้เพื่อชดเชยจากสภาพอกหักเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากสถิติแล้ว ฮาร์เดนถูกหยิบยกมาให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกมองว่าคู่ควรกับรางวัลเอ็มวีพีมากที่สุด เพราะฟอร์มการเล่นของหนุ่มเคราหนารายนี้เอง

ปีนี้ฮาร์เดนเป็นกำลังสำคัญที่สร้างสถิติทั้งของทีมและของตัวเองอีกมากมาย ทั้งจากการผนึกกำลังกับ คริส พอล ในช่วงที่ดาวดังกลับมาช่วยทีมได้แล้ว โดยร่วมทำผลงานชนะรวด 12 เกม ขณะที่ต้นปีฮาร์เดนยังทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกของลีกที่ทำทริเปิล-ดับเบิล โดยมีแต้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกคือ 60 คะแนน ตามมาด้วย 11 แอสซิสต์ และ 10 รีบาวด์ในเกมที่ชนะออร์แลนโด เมจิกส์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเกมในความทรงจำของแฟน ๆ

ขณะที่สถิติโดยรวมฮาร์เดนมีค่าเฉลี่ยทำ 30 แต้มต่อเกม 8 แอสซิสต์ต่อเกม และ 5 รีบาวด์ต่อเกม เทียบเท่าสถิติของ รัสเซลล์ เวสต์บรูก ที่ได้ตำแหน่งเอ็มวีพีเมื่อปี 2017 และ ไมเคิล จอร์แดน ตำนานของชิคาโก บูลล์ส ที่ทำไว้เมื่อปี 1989 ส่งผลให้ฮูสตัน ร็อกเกตส์ ทำสถิติชนะ 65 เกมในฤดูกาลปกติ เป็นทีมที่ผลงานดีที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ และเป็นสถิติดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมด้วย

ขณะที่สถิติของ เลบรอน เจมส์ วัย 33 ปี จากคลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส คู่ชิงชัยมีสถิติค่าเฉลี่ยทำแต้ม 27 คะแนนต่อเกม 9 แอสซิสต์ต่อเกม และ 8 รีบาวด์ต่อเกม ซึ่งสถิติของฮาร์เดนยังดูเหนือกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจำนวนเกม เลบรอน เจมส์ ลงเล่นครบทั้งหมด 82 เกม ขณะที่ฮาร์เดนพักรักษาตัวไป 9 เกม ซึ่งแน่นอนว่า คะแนนรวมในฤดูกาลนี้ เลบรอน เจมส์ ก็ทำได้มากที่สุดที่ 2,251 แต้ม มากกว่าฮาร์เดนอยู่ 50 คะแนนเท่านั้น

ข้อถกเถียงที่เกิดคือ เจมส์ลงเล่นภายใต้เพื่อนร่วมทีมที่มีประสิทธิภาพด้อยกว่า แต่ก็ยังสามารถทำผลงานโดยรวมของตัวเองออกมาเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ฮาร์เดนก็เป็นกำลังสำคัญและทำผลงานยอดเยี่ยมในแง่ผลงานส่วนบุคคลเช่นเดียวกัน แม้สถิติบางข้อของฮาร์เดนจะเป็นรองเจมส์ เช่น แอสซิสต์เฉลี่ยต่อเกมที่ 8.8 ส่วนเลบรอน เจมส์ อยู่ที่ 9.2 และเวสต์บรูก ที่ 10.1 คะแนนรวมในฤดูกาลที่ทำได้ก็เป็นเลบรอน เจมส์ ที่เหนือกว่า

อย่างไรก็ตาม กูรูมองว่าปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ การมองผลงานโดยรวมแบบฤดูกาลต่อฤดูกาลมากกว่า ซึ่งถ้าดูตั้งแต่ช่วงต้น เดือนตุลาคม 2017 ฮาร์เดน ทำ 27 แต้ม 11 แอสซิสต์ และ 6 รีบาวด์ในช่วงท้ายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมล้มโกลเด้น สเตต 122-121 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ฟอร์มของฮาร์เดนโดดเด่นต่อเนื่อง ทั้งการทำแต้มและเชื่อมประสานทีมทั้งรับและรุกเรื่อยมาจนมาถึงช่วงเพลย์ออฟ

ฮาร์เดนเป็นเสาหลักของทีมที่โดดเด่นและสร้างความแข็งแกร่งให้กับฮุสตัน ค่าอิทธิพลจากการเล่นเกมรุกของฮาร์เดน เป็นอันดับหนึ่งของลีก และสถิติชนะ 65 เกมในฤดูกาลปกติจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีฮาร์เดนอย่างแน่นอน

แต่จนกว่าฤดูกาลจะปิดฉากลงหลังซีรีส์ชิงแชมป์ ตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่ายังคงจะไม่มีประกาศออกมา ท้ายที่สุดแล้วคงต้องติดตามบทสรุปหลังจากการแข่งขันนัดชิงแชมป์ซึ่งต้องดูอีกว่า ฮุสตัน และคลีฟแลนด์ ต้นสังกัดของดาวดังของลีกจะไปไกลได้แค่ไหน แต่สำหรับฤดูกาลนี้

คงเป็นปีที่พิเศษสำหรับแฟนฮุสตัน และแฟนกีฬายัดห่วงที่ได้เห็นการเล่นของนักบาสอย่างฮาร์เดน ปลุกสีสันของเกมให้น่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยลีลายูโรสเต็ป หรือการแสดงความเฉียบคมในสนามจนกลายเป็นเรื่องราวให้แฟนกีฬาทั่วโลกหยิบมาพูดถึง