“ปาร์ม่า” คืนชีพ กลับสู่เซเรีย อา ถูกใจคอบอลยุค 90

อาฮุย แผ่นดินใหญ่ : เรื่อง

ฟุตบอลยุโรปฤดูกาล 2017-2018 ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการสำหรับทีมส่วนใหญ่ ตำแหน่งแชมป์ ทีมตกชั้น-เลื่อนชั้น และโควตาต่าง ๆ ก็รู้ผลกันไปหมด แต่เชื่อว่าบทสรุปลีกยุโรปที่ทำให้แฟนบอลยุค 90s กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง คือช่วงเวลาที่รู้ว่า ปาร์ม่า สโมสรจากอิตาลีที่เคยโด่งดังเป็นทีมแถวหน้าของทวีปเพิ่งเลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง

เกมสุดท้ายของเซเรีย บี อิตาลี ปาร์ม่า ได้ผลที่ต้องการ และโชคชะตาเป็นใจให้ โดยพวกเขาเก็บ 3 แต้ม ขณะที่โฟรซิโนเน่ ทีมที่ขับเคี่ยวแย่งอันดับ 2 เพื่อเลื่อนชั้นอัตโนมัติพลาดเสมอคู่แข่ง 2-2 เก็บได้แต้มเดียว เท่ากับว่าปาร์ม่า ขยับมาจบอันดับ 2 แทน นั่นทำให้พลพรรค “จัลโลบลู” เลื่อนชั้นกลับมาลีกสูงสุดของอิตาลีได้ ความสำเร็จครั้งนี้ยังเป็นสถิติการเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังอิตาลีด้วย โดยพวกเขาเลื่อนชั้นติดกัน 3 ปีซ้อน หลังต้องตกชั้นจากปัญหาล้มละลายเมื่อปี 2015

ฤดูกาลที่จะมาถึงนี้ แฟนบอลยุค 90s จะได้ติดตามทีมรักที่เคยสร้างความทรงจำร่วมกันในหลายแง่มุมในฤดูกาลหน้าอีกครั้ง ซึ่งการได้เห็นปาร์ม่ากลับมาโลดแล่นในเซเรีย อา อิตาลี ทำให้ย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่ทีมสร้างชื่อเมื่อเกือบ 30 ปีก่อนซึ่งเป็นยุคที่ฟุตบอลอิตาลีเฟื่องฟู

ปาร์ม่าช่วงกลางยุค 90s คือช่วงที่มีนักเตะฝีเท้าชั้นยอดระดับตำนานคับคั่ง อาทิ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, เฮร์นัน เครสโป, เอ็นริโก้ เคียซ่า, จิอันฟรังโก โซล่า, ลีลิยง ตูราม, ฮวน เซบาสเตียน เวรอน และผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนที่ติดกุนซือผลงานยอดเยี่ยมอันดับต้นของโลกอย่าง คาร์โล อันเชลอตติ ก็เคยพาปาร์ม่าประสบความสำเร็จติดอันดับ 2 ในเซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาล 1996-1997 ได้ตั๋วไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ปาร์ม่าโด่งดังขีดสุดภายใต้การคุมทีมของ เนวิโอ สกาลา ต้นยุค 90s ซึ่งกุนซือชาวอิตาเลียน พาทีมเลื่อนชั้นจากเซเรีย บี มาลีกสูงสุด จากนั้นเข็นทีมไปจนคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย พร้อมกับความสำเร็จในสโมสรยุโรปในรายการคัพ วินเนอร์ส คัพ ตามด้วยยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ (หรือยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ในปัจจุบัน) ปี 1993 และยูฟ่า คัพ (ยูโรป้า ลีก ในปัจจุบัน) ในปี 1995 ซึ่งยุคนั้นเป็นยุคแห่งสีเสื้อเหลือง-น้ำเงิน โดดเด่นในวงการลูกหนังยุโรป

Advertisment

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับปาร์ม่าคือ พวกเขาเจอปัญหาสภาวะการเงินหลายครั้งในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ในช่วงที่สกาลาเข้ามาทำงาน เขาได้รับการหนุนหลังจากนายทุนกระเป๋าหนาที่เป็นผู้บริหารบริษัทปาร์มาลัต บริษัทด้านอาหารแห่งใหญ่ในอิตาลี ส่วนทีมยุค คาร์โล อันเชลอตติ ก็เคยมีเสียงร่ำลือกันว่าอันเช่ มีโอกาสคว้าตัว โรแบร์โต้ บาจโจ้ หัวหอกทีมชาติอิตาลีมาร่วมทีม แต่สุดท้ายแฟนปาร์ม่าไม่ได้เห็นวันนั้นเกิดขึ้น

หลังผ่านยุครุ่งเรืองมาสู่จุดเปลี่ยนที่เจ้าของบริษัทอาหารซึ่งมาเทกโอเวอร์พัวพันคดีทุจริต จนทำให้สโมสรตกต่ำ ไม่น่าเชื่อว่าสโมสรที่เคยมีนักเตะที่กลายมาเป็นตำนานระดับโลกหลายคนจะเจอปัญหาหนี้สินจน ไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างนักเตะ และตกอยู่ในภาวะล้มละลายหลายครั้ง ทั้งช่วง

ปี 2004 และ 2014 ซึ่งการล้มละลายครั้งหลังสุดก็เกิดจากพวกเขามีหนี้สินจนไม่มีเงินจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะ แม้จะเปลี่ยนมือนายทุนเข้ามาเทกโอเวอร์หลายรายก็ยังไม่สามารถเคลียร์หนี้ให้ทีมที่เป็นปัญหาเรื้อรังสะสมมานานตั้งแต่ปี 2007

ปี 2015 ปาร์ม่าเจอภาวะล้มละลายอีกครั้ง มีหนี้สินร่วม 2 ร้อยล้านยูโร และค้างค่าเหนื่อยผู้เล่นในทีมด้วย หลังจากนั้นปาร์ม่าต้องไปเริ่มตั้งต้นใหม่ในเซเรีย ดี ลีกดิวิชั่น 4 ในระบบฟุตบอลลีกของอิตาลี หลังจากนั้น พวกเขาสร้างสถิติเลื่อนชั้นขึ้นติดต่อกัน 3 ปีซ้อนจนได้กลับมาเล่นในเซเรีย อา อิตาลี อีกครั้ง

Advertisment

ขณะที่นายทุนเจ้าของสโมสรที่เข้ามาลงทุนรายปัจจุบันคือ เจียง ลี่จาง นักธุรกิจชาวจีน ซึ่งรุกตลาดกีฬาในยุโรปและสหรัฐอเมริกาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ถือหุ้นส่วนใหญ่ในสโมสรกรานาด้า ในสเปน และมีหุ้นในทีมบาสเกตบอลเอ็นบีเอด้วย

หลังจากจุดเปลี่ยนช่วงนักธุรกิจคนดังของบริษัทปาร์มาลัต มาเทกโอเวอร์ปาร์ม่า พยายามนำบุคลากรที่คุ้นเคยอย่างสกาลา กุนซือที่เคยปั้นทีมมานั่งแท่นผู้บริหารใหญ่เพื่อดูแลทีม ขณะที่เจียงเข้ามาซื้อหุ้นสโมสรปาร์ม่า เมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเขาเล่นในเซเรีย บี แล้ว

เช่นเดียวกับสโมสรอื่น ปาร์ม่าเดินหน้าต่อได้ด้วยผู้เล่นในทีม ซึ่งจัลโลบลู ก็มีกัปตันทีมตัวเก๋าที่จงรักภักดีกับสโมสรอย่าง

อเลสซานโดร ลูกาเรลลี่ วัย 40 ปี ซึ่งอยู่กับทีมตั้งแต่สโมสรมีสถานะล้มละลายครั้งหลังสุดในปี 2015 และอยู่มาจนถึงทีมได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดอีกรอบ และน่าจะต้องเปลี่ยนบทบาทมาทำงานเป็นสตาฟเบื้องหลังแทนในฤดูกาลหน้า

การกลับมาในฤดูกาล 2018-2019 คงทำให้คอบอลจากยุค 90s ได้หวนรำลึกช่วงที่ดีที่สุดอีกหนึ่งยุคของลูกหนังอิตาลี ถึงจะไม่มีผู้เล่นฝีเท้าตื่นตาตื่นใจเหมือนชุดที่แฟนบอลติดตามกันทั่วโลก ปาร์ม่า คงกลายเป็นทีมที่น่าลุ้นในฐานะสโมสรที่โลดโผนที่สุดอีกทีมในประวัติศาสตร์ลูกหนังยุโรป ซึ่งพวกเขามอบความทรงจำที่มีค่าให้แฟนบอลมากมาย ถึงเวลาแล้วที่จะกลับมาให้กำลังใจพวกเขาอีกครั้ง