เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวภายหลังลูกทีมร่วงตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากลงสนามนัดที่สองที่เอติฮัด สเตเดียม เมื่อวันที่ 17 เมษายน คว้าชัยเหนือท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-3 เมื่อรวมผล 2 นัด เสมอกัน 4-4 แต่สเปอร์สเข้ารอบด้วยกฎอะเวย์โกล
เป๊ปกล่าวต่อว่า โชคร้ายที่ทีมจบไม่สวย แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับสเปอร์สและอวยพรให้โชคดีในรอบตัดเชือก พร้อมกล่าวด้วยว่าตนสนับสนุนเรื่องการนำระบบวิดีโอช่วยตัดสิน หรือวีเออาร์มาใช้ อย่างไรก็ตาม หากมองประตูของเฟร์นานโด ยอเรนเต้ บางมุม น่าจะเป็นลูกแฮนด์บอลมากกว่า ขณะที่มองจากมุมผู้ตัดสินแล้วดูเหมือนจะไม่ใช่
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ในตอนท้าย เป๊ปกล่าวว่า เรือใบสีฟ้าอาจต้องใช้เวลาทำใจสัก 1 วัน แต่หลังจากนั้นจะกลับมาตั้งหลักยืนหยัดได้อีกครั้ง
สำหรับ 7 ประตูในเกมนี้ ได้ประตูกันเร็วตั้งแต่ต้นเกม โดยราฮีม สเตอร์ลิ่ง กองหน้าทีมชาติอังกฤษเหมา 2 ประตูให้เจ้าถิ่นในนาทีที่ 4 และ 21 ขณะที่อีก 2 ลูกมาจากแบร์นาร์โด้ ซิลวา นาที 11 และเซร์คิโอ อากูเอโร่ นาที 59 ส่วนสเปอร์สได้ประตูจากซน ฮึง มิน นาทีที่ 7 และ 10 กับยอเรนเต้ปิดท้ายนาที 73
สำหรับประตูของยอเรนเต้ที่เป๊ปทักท้วงเป็นจังหวะชุลมุนจากลูกเตะมุมและบอลโดนสะโพกของแข้งสเปนเข้าไป ขณะที่เรือใบสีฟ้าเหมือนจะได้ประตูปิดกล่องจากสเตอร์ลิ่งช่วงท้ายเกม แต่ผู้ตัดสินดูวีเออาร์แล้วบอกว่าอากูเอโร่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าจากจังหวะก่อนหน้านั้น
การตกรอบดังกล่าวทำให้แมนฯซิตี้พลาดโอกาสเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ได้ถึง 4 รายการ หรือ “ควอดรูเปิลแชมป์” ในปีเดียวกัน หลังจากได้ถ้วยลีกคัพหรือคาราบาวคัพไปก่อนหน้านี้ และได้เข้าชิงเอฟเอคัพ รวมถึงมีลุ้นป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย
ส่วนหงส์แดง ลิเวอร์พูลผ่านฉลุยเข้ารอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แบบไร้ปัญหา หลังบุกถล่มปอร์โต้ 4-1 ในเกมเตะนัดที่ 2 เมื่อวันที่ 17 เมษายน และคว้าชัยด้วยผลรวม 6-1
หงส์แดงได้ประตูขึ้นนำจากซาดิโอ มาเน่ ในนาที 26 หลังจากนั้นมาทำเพิ่มอีก 3 ประตูในครึ่งหลังจากโมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาที 65, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ นาที 77 และเวอร์กิล ฟาน ไดค์ นาที 84 ส่วนเจ้าถิ่นตีไข่แตกจากเอแดร์ มิลิเตา นาที 68
คล็อปป์กล่าวต่อว่า สำหรับรอบรองชนะเลิศ ลิเวอร์พูลจะต้องเจอกับบาร์เซโลน่า ตนไม่เคยคุมทีมเตะกับบาร์ซ่ามาก่อนยกเว้นแมตช์กระชับมิตร จึงตั้งตารอเกมนี้ รู้สึกดีใจจริงๆ ที่จะได้เจอกับบาร์ซ่า เชื่อว่าต้องเป็นเกมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน หลังจากนี้จะต้องมาวางแผนว่าจะจัดทีมอยางไร แต่ก่อนหน้านั้นต้องผ่านเกมลีกช่วงสุดสัปดาห์กับคาร์ดิฟฟ์ไปก่อน จึงต้องโฟกัสไปที่แมตช์นั้น แล้วค่อยมาว่ากันเรื่องบาร์ซ่า ซึ่งทีมยังมีเวลาเตรียมตัวอีกระยะหนึ่ง
ที่มา:มติชนออนไลน์
