เบรก! ระเบียบใหม่ธุรกิจนำเที่ยวฯ ยันยกเลิก “จ็อบออร์เดอร์” ฝืนมติบอร์ด

ระเบียบใหม่ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สะดุด! วงในเผย “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์”รมว.การท่องเที่ยวฯ สั่งเบรกแล้ว เหตุฝืนมติที่ประชุมบอร์ดชัดเจน-ผิดระเบียบปฏิบัติ ยันที่ประชุมบอร์ดล่าสุดเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยให้ยกเลิกใบ “job order” หวั่นทุบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพัง ตรวจสอบไม่ได้ เอื้อไกด์เถื่อนครองเมือง ล่าสุดสั่งโยกด่วน “อนันต์ วงศ์เบญจรัตน์” อธิบดีกรมการท่องเที่ยวนั่งรองปลัดกระทรวง ดัน “ทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ” รองปลัดกระทรวง นั่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยว

จากประกาศระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ว่าด้วยมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์ฯ พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดที่จะออกมาใช้แทนระเบียบ พ.ศ. 2561 ไม่มีข้อความในหมวดที่ 3 ว่าด้วยมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยว ข้อที่ 10 ที่ระบุว่า ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องจัดให้มีใบสั่งงานมัคคุเทศก์ (job order) เพื่อให้นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทำงาน

เบรกแล้ว ! ยกเลิก Job Order

ก่อนหน้านี้นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวยืนยันกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากข้อความและสาระในประกาศฉบับใหม่ที่ลงนามโดยนายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 นั้น ตีความหมายว่า ระเบียบใหม่ที่

รอประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้นได้ยกเลิกใบสั่งงานมัคคุเทศก์ (job order) ไปเรียบร้อยแล้ว และจะส่งผลดีกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา job order นั้น ถือว่าเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำงานของมัคคุเทศก์และทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยเสียหาย

ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงในคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์รายหนึ่ง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าระเบียบใหม่ดังกล่าวนี้ได้ถูกเบรกไปแล้ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (วีระศักดิ์ โควสุรัตน์) ได้สั่งให้ยุติการเสนอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปก่อน เนื่องจากต้องการให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะใบสั่งงานมัคคุเทศก์ หรือ job order นั้น ถือเป็นสาระสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมอย่างมาก และเป็นใบแสดงข้อมูลรายละเอียดของโปรแกรมนำเที่ยวที่สำคัญ

อีกทั้งยังทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถตรวจสอบการทำงานของบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ได้ หากยกเลิกไปโดยไม่มีมาตรการใหม่มารองรับจะทำให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวมเป็นอย่างมาก

หวั่นปัญหาใหม่ทุบอุตฯท่องเที่ยว

แหล่งข่าวรายเดิมยังเปิดเผยด้วยว่า ที่ผ่านมาสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องและพยายามผลักดันให้มีการยกเลิกใบ job order มาอย่างต่อเนื่อง โดยให้เหตุผลว่าใบจ็อบออร์เดอร์เป็นอุปสรรคในการทำงานของบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบและจับกุม ขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิก เนื่องจากมองว่าหากไม่มีใบสั่งงานดังกล่าวจะทำให้ระบบการทำธุรกิจของบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ไม่มีมาตรฐาน หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่เป็นผลกระทบกับนักท่องเที่ยวเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่มีข้อมูลนักท่องเที่ยว รวมถึงบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ที่สำคัญหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ด้วย

“ใบจ็อบออร์เดอร์นั้น จะมีข้อมูลโปรแกรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอย่างละเอียด อาทิ วันที่, บริษัท, เวลาที่รับนักท่องเที่ยว, ที่พัก, มัคคุเทศก์, ร้านอาหาร,โปรแกรมการท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งหากเกิดไรขึ้นกับกรุ๊ปทัวร์เจ้าหน้าที่รัฐจะสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดจากใบนี้ได้” แหล่งข่าวกล่าวและว่า นี่คือเหตุผลสำคัญที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย

ขณะเดียวกันยังมองว่าหากยกเลิกใบงานดังกล่าวแล้วจะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยพัง ขาดมาตรฐาน โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย มัคคุเทศก์สามารถพานักท่องเที่ยวออกนอกโปรแกรมได้อย่างอิสระ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาใหม่ ๆ ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตามมา อาทิ นักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงให้ซื้อออปชั่นทัวร์เสริม หลอกให้นักท่องเที่ยวไปช็อปปิ้งในสถานที่ไม่เหมาะสม รวมถึงยังเปิดช่องให้มัคคุเทศก์ต่างชาติและมัคคุเทศก์ผิดกฎหมายเกิดขึ้นอีกด้วย

บอร์ดยังไม่เห็นเครื่องมือทดแทน

นายสุรวัช อัครวรมาศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ตั้งแต่เริ่มต้น กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เห็นด้วยที่ชะลอการประกาศลงนามในราชกิจจาฯไปก่อน เนื่องจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ยังไม่เห็นเครื่องมือที่จะนำมาใช้ทดแทนใบจ็อบออร์เดอร์ และเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวม

“มติบอร์ดระบุไว้ชัดเจนว่าถ้าจะยกเลิกใบจ็อบออร์เดอร์จะต้องมีเครื่องมืออื่นมารองรับ แต่ที่ผ่านมาที่ประชุมยังไม่ได้รับรายงานว่าจะนำระบบอะไรมาใช้แทน” นายสุรวัชกล่าว

นายสุรวัชกล่าวต่อไปอีกว่า โครงสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของแต่ละประเทศแตกต่างกัน การบังคับใช้กฎหมายของแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน จึงไม่อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่น และประเทศไทยเองถือว่าเป็นประเทศชั้นนำของการท่องเที่ยวควรมีวิธีปฏิบัติเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องไปเลียนแบบใคร หากยกเลิกจ็อบออร์เดอร์ไปแล้วเกรงว่าเครื่องมือใหม่ที่มาทดแทนใช้ไม่ได้ผลจะสร้างปัญหาไม่รู้จบ ซึ่งจะมีผลต่อระบบท่องเที่ยวของประเทศในอนาคต

เด้งบิ๊ก ก.ท่องเที่ยวฯยกแผง

แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอเรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งระดับสูงจำนวน 4 รายต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาอนุมัติ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ

ประกอบด้วย 1.นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยว 2.นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 3.นายสันติ ป่าหวาย รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา และ 4.นายปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

“ในประกาศมติ ครม. ระบุว่า มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม คนในธุรกิจท่องเที่ยวประเมินว่าประเด็นการโยกย้าย

รอบนี้น่าจะเกี่ยวกับประกาศใหม่ของคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ดังกล่าวนี้ด้วย” แหล่งข่าวกล่าว