“แอร์ไลน์” สำลักไวรัสอู่ฮั่น เร่งเขย่าพอร์ตรายได้-กระจายเสี่ยง

การประกาศมาตรการระงับการดำเนินกิจกรรมของบริษัททัวร์ในจีน รวมถึงงดการเดินทางออกนอกประเทศของรัฐบาลจีนเนื่องจากต้องการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไวรัสอู่ฮั่น ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ภาคการท่องเที่ยวของจีนหยุดชะงักทันที

สำหรับประเทศไทยนั้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจีนหยุดชะงักทันทีเช่นกัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ประเมินสถานการณ์ไว้ว่า อย่างต่ำรัฐบาลจีนน่าจะใช้เวลาในการจัดการไม่ต่ำกว่า 3 เดือน พร้อมทั้งคาดการณ์ไว้ว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยน่าจะได้รับผลกระทบราว 3 แสนล้านบาทในปีนี้

โดยนอกจากบริษัทนำเที่ยว โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบแล้ว “สายการบิน” ถือเป็นอีกเซ็กเตอร์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะสายการบินที่มุ่งกับตลาดจีนอย่าง “ไทยแอร์เอเชีย” และ “ไทยไลอ้อนแอร์” รวมถึง “ไทยสมายล์”

“สันติสุข คล่องใช้ยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชียให้ข้อมูลว่า สายการบิน “ไทยแอร์เอเชีย”มีเส้นทางสู่ประเทศจีนคิดเป็นสัดส่วน 12% จากเส้นทางทั้งหมด ส่วนจำนวนผู้โดยสารชาวจีนมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 30% ของผู้โดยสารทั้งหมด ทำให้ในช่วงที่ผ่านมานอกจากเส้นทางบินสู่ “อู่ฮั่น” ที่ไม่สามารถทำการบินได้แล้ว ยังมีเส้นทางอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบและมีการปรับลดเที่ยวบินในประเทศจีนตามความเหมาะสมของสถานการณ์อีกหลายเส้นทาง

AirAsia

โดย “ไทยแอร์เอเชีย” คาดว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสอู่ฮั่นครั้งนี้ จะทำให้ผู้โดยสารจีนกลุ่มกรุ๊ปทัวร์และเช่าเหมาลำของสายการบินหายไปอย่างน้อย3 แสนคน และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงรายได้ในไตรมาสแรกของสายการบินอย่างน้อย 3%

“ปัจจุบันสายการบินพยายามปรับลดสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนให้สมดุลยิ่งขึ้น เพิ่มสัดส่วนในตลาดอินเดียเเละอินโดจีน ไม่หวังพึ่งตลาดใดตลาดหนึ่งเพื่อสร้างเสถียรภาพทางธุรกิจ”

“สันติสุข” บอกว่า ที่ผ่านมา “ไทยแอร์เอเชีย” มีเส้นทางบินเข้า-ออกจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด 14 จุดบินจำนวน 20 เส้นทางบิน รวมทั้งหมดมีจำนวนเที่ยวบินราว 164 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ประกอบด้วย เส้นทางดอนเมือง-กว่างโจว 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-เสิ่นเจิ้น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-ซัวเถา 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-ฉางชา 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-ฉงชิ่ง 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-คุนหมิง 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-ซีอาน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-เฉิงตู 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-อู่ฮั่น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และดอนเมือง-เซี่ยงไฮ้ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางดอนเมือง-หางโจว 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-หนานจิง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ดอนเมือง-หนิงปอ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงใหม่-หนานชาง 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงใหม่-ฉางซา 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงใหม่-หางโจว 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงใหม่-เสิ่นเจิ้น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงใหม่-ปักกิ่ง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงราย-เสิ่นเจิ้น 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงราย-หางโจว 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และภูเก็ต-อู่ฮั่น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ขณะเดียวกัน ยังมีเส้นทางบินสู่ฮ่องกงและมาเก๊า 2 จุดบิน จำนวน 6 เส้นทางบินรวมเป็นจำนวนเที่ยวบินราว 71 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-ฮ่องกง 25 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, เชียงใหม่-ฮ่องกง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ภูเก็ต-ฮ่องกง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, กรุงเทพฯ-มาเก๊า 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์,เชียงใหม่-มาเก๊า 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และภูเก็ต-มาเก๊า 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และมีเส้นทางเชียงใหม่สู่ไทเปด้วย 1 เส้นทางบิน

Thai Lion Air

ด้านสายการบิน “ไทยไลอ้อนแอร์” นั้น “อัศวิน ยังกีรติวร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวว่ามั่นใจว่า ไทยไลอ้อนแอร์ยังเชื่อมั่นว่า ถึงแม้ว่าสายการบินจะมีสัดส่วนจำนวนเส้นทางบินสู่ประเทศจีนถึง30% จากเส้นทางทั้งหมด และมีจำนวนผู้โดยสารจีนมากถึง 30-40% ใกล้เคียงกับไทยแอร์เอเชีย แต่ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องปรับลดเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารที่ตั้งไว้สำหรับปี 2563 แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาสายการบินจำเป็นที่จะต้องปรับลดเที่ยวบินในบางเส้นทางบินลงราว 1-2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และมีแผนที่จะนำเครื่องไปบินในเส้นทางอื่น ๆ นอกจากเส้นทางสู่จีนเพื่อทดแทนตลาดจีนที่น่าจะหายไปจำนวนหนึ่ง อาทิ บาหลี อินโดนีเซีย เป็นต้น โดยเชื่อว่าการปรับแผนและการสนับสนุนจากรัฐบาลจะทำให้สายการบินไม่ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้มากนัก

ทั้งนี้ “ไทยไลอ้อนแอร์” คาดจะสามารถประเมินความเสียหายเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ทั้งหมดได้ในช่วงครึ่งปีหลังของเดือนกุมภาพันธ์นี้ พร้อมทั้งสามารถปรับตารางบินให้นิ่งและหยุดการปรับลดเที่ยวบินในเส้นทางจีนลง โดยไทยไลอ้อนแอร์มุ่งมั่นที่จะรักษาจำนวนผู้โดยสารและรายได้ในไตรมาส 1 นี้ให้ได้อย่างเต็มที่

“ที่ผ่านมาสายการบินไลอ้อนแอร์มีจำนวนจุดบินในประเทศจีน 15 จุดบิน รวม 25 เส้นทางบิน อาทิ เส้นทางสู่กว่างโจว, เฉิงตู, เสิ่นเจิ้น, ฉางชา, หนานฉาง, ฉางโจว, เจิ้งโจว, หางโจว, หนานจิง, หนิงปอ, หนานจิง, เทียนจิน, ฉงชิ่ง, เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น”

Thai Smile Airways

เช่นเดียวกับ “ชาริตา ลีลายุทธ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน ไทยสมายล์แอร์เวย์ ที่ล่าสุดได้แจ้งยกเลิกเที่ยวบินเข้า-ออกประเทศจีน 3 เส้นทางบินได้แก่ กรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง, รุงเทพฯ-ฉางชา และกรุงเทพฯ-เจิ้งโจว ชั่วคราวไปถึง 29 กุมภาพันธ์นี้

ปี 2563 นี้จึงน่าจะเป็นปีที่ยากลำบากอีกปีหนึ่งสำหรับธุรกิจสายการบินของไทย หลังจากล้มลุกคลุกคลาน และขาดทุนกันมาครั้งใหญ่ในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา