โควิดทุบ “เยอรมนี” ซบยาว/ททท.คาดใช้เวลาฟื้น3ปี

นักท่องเที่ยวต่างชาติ
File Photo : CHRISTOPHE ARCHAMBAULT / AFP

โควิดทุบ “เยอรมนี” ซบยาว ! ททท.เผยนักท่องเที่ยวออกเดินทางระยะไกลได้ราวตุลาคมนี้ คาดใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีกว่าสถานการณ์โดยรวมจะพลิกกลับสู่ปกติ แนะจับมือพันธมิตรทำการตลาดอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องหนุนไทยขึ้นท็อปออฟไมนด์ เชื่อคู่การท่องเที่ยวในประเทศ-ภูมิภาคยุโรป-เวียดนามคู่แข่งใหม่ของไทย

นางสาวเวโรนิกา บุลโลสกี้ ผู้จัดการตลาด และนางสาวลอร่า สเตเตอร์ผู้บริหารการตลาด สำนักงานแฟรงก์เฟิร์ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้าสู่ภูมิภาคยุโรป ทำให้เกิดการยกเลิกการเดินทางและเที่ยวบินมหาศาล โดยในเดือนมิถุนายนนี้รัฐบาลเยอรมันได้ประกาศเตือนการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศยุโรป 31 ประเทศหลายฝ่ายจึงคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวเยอรมันจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวระยะไกลได้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้

โดยจากการประมาณการนักท่องเที่ยวเยอรมันน่าจะสามารถออกเดินทางไปเยี่ยมญาติ พบปะเพื่อนฝูง และเที่ยวพักผ่อนภายในประเทศ หรือในประเทศเพื่อนบ้านได้ในราวเดือนกรกฎาคม และน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อให้มีความมั่นใจและความพร้อมสำหรับเดินทางระยะไกลในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนนี้ และเชื่อว่าการท่องเที่ยวหลังวิกฤตการณ์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่เท่ากับปี 2562 และจะกลับมาเป็นปกติในอีก 3 ปี หรือประมาณปี 2566

ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยที่จะต้องพิจารณาร่วมด้วยหลัก ๆ คือ สถานการณ์และการแจ้งเตือนด้านการท่องเที่ยวจากทั้งรัฐบาลเยอรมันและรัฐบาลไทย รวมถึงการกลับมาเปิดให้บริการของสายการบินและเส้นทางบินที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวโดยในช่วงเวลาก่อนจะเปิดการเดินทางผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อดันให้ไทยคงอยู่ในท็อปออฟไมนด์ของนักท่องเที่ยวเยอรมันผ่านการประสานงานกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิด

สำหรับตลาดเยอรมนีเชื่อว่านักท่องเที่ยวที่จะออกเดินทางก่อนคือนักท่องเที่ยวกลุ่มเจนเอ็กซ์ ซึ่งมีความเป็นผู้สูงวัยแอ็กทีฟที่พร้อมออกเดินทางเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวเจนแซดที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี รวมถึงนักท่องเที่ยวลักเซอรี่ และนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness) และนักท่องเที่ยวจากชุมชน LGBTQ ที่มีช่วงเวลาในการเดินทางที่ยืดหยุ่นและความพร้อมในการเดินทางสูงโดยทาง ททท.ก็เตรียมจะจัดอีเวนต์สำหรับนักท่องเที่ยว LGBTQ เร็ว ๆ นี้เช่นกัน

“เชื่อว่าพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเยอรมันอาจมีความต้องการท่องเที่ยวมากกว่าที่เคยแต่ว่ามีความกังวลใหม่ในเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัยในการท่องเที่ยว รวมถึงเรื่องการแพทย์ฉุกเฉิน งบประมาณสำหรับท่องเที่ยว และการขยับวันหยุดปิดภาคเรียนนอกจากนั้น การเดินทางทางอากาศจะมีราคาสูงขึ้น รวมทั้งบริษัทนำเที่ยวและบริษัทเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะเสี่ยงต่อการดิสรัปต์ของดิจิทัล และเชื่อว่าคู่แข่งใหม่ในตลาดเยอรมันจะเป็นการท่องเที่ยวภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านส่วนตลาดข้างเคียงไทยอาจจะมีเพียงเวียดนามเท่านั้น” นางสาวเวโรนิกากล่าว

และว่า แม้ว่านักท่องเที่ยวจะมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ นอกจากการพักผ่อนชายหาดมากขึ้น หันมามองทัวร์อาหาร โฮมสเตย์ มองหาประสบการณ์ในเชิงลึกเกี่ยวกับประเทศปลายทางและผู้คนท้องถิ่นมากขึ้น เริ่มหลีกหนีพื้นที่ท่องเที่ยวที่หนาแน่นและต้องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน แต่จุดหมายปลายทางในไทยของนักท่องเที่ยวเยอรมันจะไม่เปลี่ยนแปลงจากกรุงเทพฯและภูเก็ต

“ททท.ทราบว่าบริษัทนำเที่ยวล้วนลำบากมากในสถานการณ์ปัจจุบัน จึงได้พยายามจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และแสดงให้เห็นว่า ททท.อยู่เคียงข้างและพร้อมจะสนับสนุนเท่าที่จะทำได้เสมอโดยการจัดกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ที่มุ่งเน้น B2B เป็นหลัก เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากเยอรมนีมีประเทศไทยอยู่ในท็อปออฟไมนด์ โดยหลังจากนี้จะยิ่งมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ที่หนักแน่นและจะเริ่มทำทริปสื่อมวลชน โรดโชว์ และแคมเปญด้านการขายทันทีที่ทำได้” นางสาวเวโรนิกากล่าว

ด้านนางพัฒน์สี เพิ่มวงศ์เสนีย์ผู้อำนวยการสำนักงานแฟรงก์เฟิร์ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมานั้นมีจำนวนนักท่องเที่ยวเยอรมันเดินทางเข้าไทยปีละกว่า 850,000 คน เป็นอันดับ 3 ของประเทศในภูมิภาคยุโรปที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากที่สุด โดยกว่า 70% เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางซ้ำ และมีประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ของจุดหมายปลายทางระยะไกลที่ต้องการจะเดินทางไปโดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีระยะพำนัก 14 วัน และมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปราว 62,000 บาท นิยมจองใกล้การเดินทางไม่เกิน 5-6 สัปดาห์ และกว่า 45% ยังเดินทางมาด้วยแพ็กเกจทัวร์ นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวเยอรมันส่วนใหญ่จะเดินทางในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ตามมาด้วยช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี