สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า พวกเขาจะสร้างบ้านใหม่กว่า 300,000 หลังคาเรือนต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการสร้างที่สูงขึ้นมากและมากกว่าปีใดๆ นับตั้งแต่ปี 1960 โดยมีเพียงร้อยละ 12% ของประชากรที่คิดว่ารัฐบาลจะสามารถทำตามเป้าหมายได้
การสำรวจของ Royal Institute of Chartered Surveyors (RICS) พบว่า มีเพียง 12% ของประชาชนเท่านั้นที่แสดงความมั่นใจในการสร้างบ้านใหม่ รวมถึงการส่งมอบบ้าน ส่วนที่เหลือไม่มีความมั่นใจหรือไม่แน่ใจ
ลูอิส จอห์นสตัน ผู้จัดการฝ่ายรัฐสภาของ RICS กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ อาจไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนเเปลงขั้นพื้นฐานในเรื่องของที่อยู่อาศัย
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งกระทรวงการคลัง ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับการกู้ยืมเงินของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อให้เทศบาลสามารถเริ่มสร้างที่อยู่อาศัย
สำหรับสถิติอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่าการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่เริ่มต้นที่ 166,100 หลังคาเรือน ภายในปีไปจนถึงเดือนกันยายน 2017 ซึ่งในปี 2008-2009 ลดลงเหลือน้อยกว่า 80,000 หลังคาเรือน
อย่างไรก็ตามข้อมูลที่เป็นทางการอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าที่อยู่อาศัย อาทิบ้าน แฟลตขนาดเล็ก และสำนักงานที่แปลงเป็นที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้นเป็น 217,350 ในปี 2016-2017 ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขของรัฐบาลที่ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 300,000 หลังคาเรือนต่อปี
