เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ผู้นำสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความผ่านแอพลิเคชั่นทวิตเตอร์ ระบุว่า ทางการวอชิงตันได้ขอให้ทางการปักกิ่งช่วยวางแผน เพื่อลดการเกินดุลการค้าปีนี้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในการค้าระหว่างกัน โดยเมื่อปีก่อน จีนเกินดุลการค้าสหรัฐมากถึง 3.756 แสนล้านดอลลาร์ โดยจำนวนเกินดุล 1 พันล้านเหรียญดังกล่าว คิดเป็นเพียง 0.3% ของการค้า 2 ฝ่ายในแต่ละปีเท่านั้น
เจ้าหน้าที่สหรัฐ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าไวท์เฮ้าส์ติดต่อรัฐบาลจีนผ่านทางช่องทางไหน อย่างไรก็ตาม มีแหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ “หลิว เหอ” เจ้าหน้าที่กำกับกฎหมายหลักของจีน ได้เดินทางเยือนกรุงวอชังตัน ทรัมป์ได้ยกเรื่องดังกล่าวขึ้นเรียกร้องด้วย
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทดัง เปิดขายเดือน พ.ค.นี้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.20%
ปัจจุบัน การค้าโลกเผชิญหน้ากับความตึงเครียดภายหลังเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ออกนโยบายภาษีแผงโซลาเซลล์ใหม่ โดยมุ่งเป้าเพื่อตั้งกำแพงภาษีต่อจีน และล่าสุด ก็ได้ลงนามนโยบายภาษีตัวใหม่ ได้แก่ เหล็กและอลูมิเนียม ผู้นำเข้าจะต้องเสียภาษีเหล็กและอลูมิเนียมแพงขึ้น 25% และ 10% ตามลำดับ ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อแค่จีนเท่านั้น แต่จะกระทบต่อการค้าทั่วโลก
นักวิเคราะห์มองว่า การกำหนดภาษีเหล็กและอลูมิเนียมใหม่ อาจจะกระทบจีนไม่มากนัก แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหากทรัมป์ยังคงเดินเกมขึ้นภาษีอยู่ต่อเนื่อง น่าจะเป็นเรื่องใหญ่กว่านัก เพราะดูท่าทางรัฐบาลวอชิงตันน่าจะเอาจริง รวมถึงในเรื่องการฟ้องร้องจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาด้วย
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการขาดดุลการค้าต่อจีน เป็นเรื่องที่ทรัมป์พยายามแก้โจทย์มาโดยตลอด โดยสหรัฐขาดดุลการค้าจีนเกิน 3 แสนล้านติดต่อกัน 4 ปี และปีที่ผ่านถือว่าเป็นจำนวนที่มากที่สุด
