เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา เห็นชอบที่จะเพิ่มกฎหมายที่จะให้อำนาจเพิ่มแก่ คณะกรรมาธิการตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศของสหรัฐ (CFIUS) ที่จะสามารถระงับข้อตกลงใดๆ ระหว่างบริษัทอเมริกันและบริษัทจีนได้ หากข้อตกลงดังกล่าวมีท่าทีกระทบความมั่นคงของชาติ
กฎหมายใหม่ดังกล่าว สืบเนื่องจากความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ ในการตอบโต้จีน ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ และเห็นว่าจีนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเกาหลีเหนือ
- เงินอุดหนุนนักเรียน 2567 ช่วยค่าชุด-หนังสือเรียน อนุบาล-ปวช. ได้เท่าไร
- พนักงานถูกไล่ออก เพราะพากันหนีไฟไหม้ ที่มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล
- บ้าน-รถกู้ไม่ผ่านพุ่งกระฉูด หนี้ครัวเรือนท่วม-แบงก์ผวา NPL
โดยเมื่อพฤหัสที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) ประธานาธิบดีสหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้ต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีจีน “หลิว เหอ” เพื่อเจรจาด้านการค้าและเศรษฐกิจ โดยประเด็นหลักคือการเจรจาเรื่องที่สหรัฐเตรียมเก็บภาษีนำเข้าจากจีนกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทรัมป์เป็นฝ่ายเชิญทางการจีนเข้ามาหารือ
ทรัมป์ได้หารืออย่างตรงไปตรงมากับหลิว เหอ และใช้คำพูดที่นักวิเคราะห์ต่างมองว่าเป็นการยื่นเงื่อนไข และข่มขู่ ในเวลาเดียวกัน โดยเขากล่าวกับสื่อมวลชน ในห้องทำงานรูปไข่ ว่า “สหรัฐถูกจีนรุมทึ้งมานานแล้ว และทางสหรัฐจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีกต่อไป
ร่างกฎหมายใหม่หากแล้วเสร็จ จะส่งผลต่อทั้งบริษัทต่างชาติต้องการร่วมธุรกิจกับบริษัทอเมริกัน และส่งผลต่อบริษัทอเมริกัน ที่จะออกไปลงทุนทำธุรกิจนอกประเทศ เนื่องจากมีการทำให้กระบวนการตรวจสอบการลงทุนทั้งในและนอกประเทศรัดกุมมากยิ่งขึ้น และจะยิ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำงาน แก่ CFIUS ที่ต้องเข้ามาตรวจสอบโดยตรง ทำให้นักกฎหมายหลายฝ่ายและบรรดาบริษัทอเมริกันที่ทำธุรกิจในจีน วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายใหม่อย่างหนัก
แต่แม้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อบริษัทชาติอิ่นๆ ด้วย แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีเป้าหมายในการกำกับบริษัทจากจีนมากกว่า
นักวิเคราะห์ได้ตั้งคำถามว่า หากกฎหมายใหม่ดังกล่าวประกาศใช้จริง รัฐบาลวอชิงตันจะมอนิเตอร์การทำธุรกรรมของบริษัทอเมริกันในต่างแดนได้อย่างไร ขณะที่ฝ่ายเอกชน ไม่เห็นด้วยที่จะมีการตรวจสอบการลงทุนของบริษัทในต่างแดน
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายใหม่นี้ ได้รับการเสนอโดยวุฒิสภาเสียงข้างมากตั้งแต่พฤศจิกายนปีก่อน และได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 2 ฝ่ายในสภา รวมถึงการหนุนโดยทรัมป์ และกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง และกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ CFIUS
ทั้งนี้ บริษัทส่วนใหญ่ของอเมริกา มีความร่วมมือกับบริษัทจีน เนื่องจากเป็นหนทางเดียวที่จะพาบริษัทเข้าสู่ตลาดจีนได้ โดยบริษัทอเมริกันส่วนใหญ่แย้งว่า ข้อตกลงต่างๆ ที่ทำกับฝ่ายจีน ไม่ได้กระทบต่อความมั่นคงชาติ เพราะทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยโนว์ฮาวเทคโนโลยีให้แก่บริษัทจีนแต่อย่างใด