AI-Blockchain-Cybersecurity 5 สตาร์ตอัพมาแรงแห่งปี 2018

เดอะวอลล์สตรีต เจอร์นัล จัดอันดับ 25บริษัทเทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดในปี 2018 โดยพบว่า 3 อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มาแรง คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บล็อกเชน และธุรกิจเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ การจัดอันดับดังกล่าว นักวิเคราะห์ใช้ตัวแปรหลัก ๆ ในการคัดเลือกคือ ทรัพย์สินของผู้ก่อตั้ง

ประวัติการลงทุน จำนวนเงินทุนที่เพิ่มขึ้นและจำนวนพนักงานของบริษัท “ประชาชาติธุรกิจ” ขอนำสตาร์ตอัพ 5 อันดับแรกมานำเสนอ อัพเดตเทรนด์แต่ละรายว่าเป็นอย่างไร

1.Bitglass Inc.

สตาร์ตอัพผู้ให้บริการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์จากแคลิฟอร์เนีย เน้นปกป้องบริษัทลูกค้าให้พ้นจากความเสี่ยงในการใช้งานระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง

ซึ่งปัจจุบันบริษัทใหญ่ ๆ ของโลกเริ่มหันมาใช้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งสตาร์ตอัพรายนี้มีจุดเด่นจนได้เป็นพันธมิตรกับ 2 ผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง อเมซอน เว็บ เซอร์วิส และเซลส์ฟอร์ซ

เดอะวอลล์สตรีต เจอร์นัล เลือกสตาร์ตอัพนี้เป็นอันดับ 1 เนื่องจากมองว่าจุดประสงค์ทางธุรกิจ มีเป้าหมายในการช่วยเหลือสตาร์ตอัพอื่น ๆ รันกิจการได้อย่างปลอดภัยไปพร้อมกัน และยังเชื่อว่า ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ควรจะเป็นเรื่องที่บริษัทเทคโนโลยีโฟกัสเป็นอันดับแรก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม “เพราะในโลกเทคโนโลยี เมื่อมีคนที่หมายปองร้าย ก็ต้องมีคนที่ออกมาปกป้อง”

Bitglass เปิดตัวในปี 2013 ปัจจุบันมีเงินทุนรวม 80.03 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีพนักงาน 104 คน

2.Blockstream Corp.

สตาร์ตอัพบล็อกเชนจากมอนทรีออล ก่อตั้งปี 2014 เดินหน้าพัฒนาระบบที่จะทำให้การเทรดบิตคอยน์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงพัฒนาการชำระเงินรูปแบบ “ไมโครเพย์เมนต์” คือชำระเงินจำนวนน้อยมาก ชนิดที่ธนาคารหรือเครดิตการ์ดไม่ยอมดำเนินการ เพราะมองว่าไม่คุ้มค่าในการทำธุรกรรม

Blockstream ได้อันดับที่ 2 ของสตาร์ตอัพน่าจับตาในปีนี้ เนื่องจากความสนใจของผู้คนที่มากขึ้นในการเทรดเงินคริปโท ทำให้การพัฒนา blockchain รองรับการชำระเงินที่ปลอดภัย กลายเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่ง Blockstream ถือเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาที่อยู่เบื้องหลังการผลักดันวงการบิตคอยน์มาตลอด ปัจจุบันทางบริษัทมีเงินทุนกว่า 77.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีพนักงาน 50 คน

3.Andela Inc.

สตาร์ตอัพด้านการศึกษาจากแอฟริกา ซึ่งจะทำการอบรมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในแอฟริกา ก่อนที่จะจ้างงานพวกเขาและส่งไปทำงานหาประสบการณ์ในบริษัทไอทีใหญ่ ๆ ทั่วโลก เป้าหมายคืออยากให้เจเนอเรชั่นถัดไป มีนักเทคโนโลยีเก่ง ๆ สตาร์ตอัพเจ๋ง ๆ กระจายอยู่ทั่วทวีปแอฟริกา

Andela ก่อตั้งในปี 2014 และได้รับการลงทุนจากมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และภรรยา ในปี 2016 มูลค่าสูงถึง 24 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มูลค่าบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 78 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีพนักงานมากถึง 1,038 คนทั่วโลก

4.Virta Health Corp.

อีกหนึ่งสตาร์ตอัพด้านสุขภาพน่าจับตามองจากซานฟรานซิสโก เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยออกแบบวิธีการรักษาของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และเคลมตัวเองว่าเป็น “ออนไลน์คลินิก” ที่ปลอดภัยและยั่งยืนต่อการรักษา วิธีการทำงานคือ แอปพลิเคชั่นของ Virta Health จะจับคู่ผู้ป่วยกับแพทย์ ผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ รวมถึงนักโภชนาการ เพื่อออกแบบวิถีชีวิตและการกินยาให้กับผู้ป่วยอย่างตรงจุดที่สุด

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Virta Health ออกรายงานวัดผลการสำรวจผู้ป่วยรอบ 1 ปี เคลมว่าผลจากการทำงานของบริษัททำให้ผู้ป่วยจำนวนมากมีอาการดีขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีเงินทุนรวม 75 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมด้วยพนักงาน 101 คน

5.Eero Inc.

บริษัทผู้พัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตและเราเตอร์จากซานฟรานซิสโก ที่ระบบการกระจายสัญญาณแบบ 360 องศา จากเราเตอร์ปกติจะกระจายออกจากแค่จุดเดียว โดยวอลล์สตรีต เจอร์นัลมองว่า Eero ได้พัฒนาในสิ่งที่น่าจะตอบโจทย์การใช้งานอินเทอร์เน็ตแห่งโลกอนาคตมากที่สุด โดยที่อุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านจะกลายเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือ IOT (internet of things)

ปัจจุบันสตาร์ตอัพรายนี้มีมูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมด้วยพนักงาน 120 คน