ซีเอ็นเอ็น รายงานวันนี้ (16 ต.ค.) ระบุว่า “เซียร์ส” ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอายุนานกว่า 132 ปี ประกาศยื่นล้มละลายที่ศาลในนิวยอร์ก และตัดสินใจเตรียมจะปิดสาขากว่า 142 แห่ง ภายในปลายปีนี้ โดยให้เหตุผลว่า เซียร์ ไม่สามารถทำกำไรได้ในยุคของ “อเมซอน” ที่กำลังเฟื่องฟูได้
ขณะเดียวกัน “เอ็ดดี แลมเพิร์ต” ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จากผู้ถือหุ้นทั้งหมด 3 คน ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยได้กล่าวในระหว่างการลาออกว่า ยังมีอีกกว่า 700 สาขาขนาดเล็กที่ยังเปิดให้บริการ ซึ่งผู้บริหารที่เหลือนั้นพร้อมจะปรับการดำเนินงานของสาขาที่เหลือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อประคองธุรกิจต่อไป
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจงใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชนได้
โดยแผนการปรับโครงสร้างบริษัทในเซียร์ส ระบุว่า ในเบื้องต้นเตรียมจะปรับลดพนักงานในสาขาที่เหลือทั้งหมด 700 แห่ง จากจำนวนพนักงานทั้งหมดทุกสาขาที่ 89,000 ตำแหน่ง จะเหลือเพียง 68,000 ตำแหน่งงานตามแผนการ คาดว่าจะเริ่มปรับโครงสร้างในเดือนกุมภาพันธ์
“กระบวนการขอความคุ้มครองหลังประกาศล้มละลาย จะช่วยให้ธุรกิจสามารถชำระหนี้ได้ในบางส่วน อีกทั้งจะทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้คล่องตัวมากขึ้น” แลมเพิร์ต กล่าว
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า บริษัทไม่สามารถชำระหนี้เป็นจำนวน 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้ครบกำหนดการชำระหนี้เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) โดยเอกสารจากศาลล้มละลายเปิดเผยว่า เซียร์ส มีสินทรัพย์ทั้งหมด 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีหนี้สินราว 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์