เหตุการณ์ประท้วงใน “ฮ่องกง” ยังส่งสัญญาณรุนแรงต่อเนื่อง โดยการประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 ก.ค.) ชาวฮ่องกงมากกว่า 100,000 คน ยังร่วมกันประท้วงต่อต้านเพื่อเรียกร้องให้ “แคร์รี ลัม” ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์ในฮ่องกงยกระดับความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่มีกลุ่มชายสวมเสื้อยืดสีขาวใช้ไม้และเหล็กรุมทำร้ายผู้สื่อข่าวและกลุ่มผู้ประท้วงบางส่วน ภายในสถานีรถไฟใต้ดิน ในระหว่างเดินทางกลับจากการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง โดยบางสื่อของฮ่องกง ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มที่บุกทำร้ายผู้อื่นเป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ทั้งนี้ รายงานของ “เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์” ระบุว่า นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงล่าสุดว่า “ขณะนี้สถานการณ์ในฮ่องกงกำลังส่งสัญญาณว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ยกระดับความรุนแรงมากขึ้น และทำให้เหตุการณ์ต่างๆ นั้นบานปลาย โดยเราเชื่อว่าความรุนแรงเหล่านี้รับแรงสนับสนุนมาจากต่างชาติ”
นอกจากนี้ หนึ่งในคำแถลงของ นางหัว ระบุด้วยว่า “ฉันสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐจะตอบคำถามต่อประชาคมโลกอย่างไร ถึงบทบาทของสหรัฐที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกง” ซึ่งถือว่าเป็นอีกครั้งที่ท่าทีของทางการจีน ชี้ชัดว่าสหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในฮ่องกง
ก่อนหน้านี้ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน เคยกล่าวว่า มีกองทัพจากชาติตะวันเข้ามาสร้างสถานการณ์ในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่ได้กล่าวถึงหลักฐานต่างๆ ที่บ่งชี้ว่าสหรัฐเข้ามาแทรกแซงการเมืองจีนกับฮ่องกง
สำหรับทางการสหรัฐ เคยวิจารณ์ถึงระบบ “1 ประเทศ 2 ระบบ” ระบุว่าเป็นระบบที่เอาเปรียบฮ่องกง และไม่ได้สร้างความปรองดองแต่อย่างใด