เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 62 ที่โรงแรม Hong Kong Ocean Park Mariott นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีการสัมมนา เขตยุทธศาสตร์เศรษฐกิจกวางตุ้ง ฮ่องกง มาเก๊า หรือ “Greater Bay Area GBA : New Horizon for Chaina’s Reform and Opening-up, New Practice of ‘One Country,Two Systems’ ,and New Platform for Win-Win Cooperation” ในฐานะแขกกิตติมศักดิ์ ตามคำเชิญของผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งมีนักธุรกิจ นักวิชาการ จากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 600 คนว่า คนไทยเชื่อมั่นในศักยภาพของฮ่องกง และพร้อมหารือร่วมกับทุกภาคส่วน เพราะเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติได้ และขอให้มั่นใจว่าไทยจะเป็นมิตรแท้ที่จะอยู่เคียงข้าง
“ความตั้งใจที่จะมาให้กำลังใจเป็นการส่วนตัวกับท่านผู้บริหารสูงสุด ท่าน แครี่ ลัม ที่ผมถือเสมือนมิตรสนิทที่นับถือ ในยามที่ท่านกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ผู้คนในสังคมมีความขัดแย้งทางความคิด จนลุกลามเป็นความขัดแย้งในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สถานการณ์ความขัดแย้งเหล่านี้ ครั้งหนึ่งก็เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน จนทำให้บ้านเมืองเสียโอกาสในการพัฒนาอยู่หลายปี”
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
“ขอใช้โอกาสนี้อวยพรให้สาธารณรัฐประชาชนจีน มีเอกภาพทางการเมืองที่แข็งแกร่ง เศรษฐกิจและสังคมเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดี เป็นเสาหลักแห่งเอเชียในการขับเคลื่อนการพัฒนาทั้งในภูมิภาคและของโลก การเดินทางมาจีนครั้งนี้ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับ GBA เชื่อว่าจะยังประโยชน์ให้แก่ภูมิภาคเอเชีย”
“ไทยให้ความสำคัญกับจีนมากกว่าแค่การเป็นประเทศคู่ค้าและหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา แต่จีนเปรียบเสมือนมิตรแท้และเพื่อนที่จริงใจกับไทยในทุกสถานการณ์ ซึ่งการมาฮ่องกงครั้งนี้ ต้องการมาให้กำลังใจนางแครี่ ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ในยามที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ผู้คนในสังคมมีความขัดแย้งทางความคิด และกลายเป็นความขัดแย้งในสังคม ที่ครั้งหนึ่งก็เคยเกิดขึ้นในไทย จนทำให้บ้านเมืองเสียโอกาสในการพัฒนาอยู่หลายปี และเชื่อว่าคลี่คลายปัญหาอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บรรยากาศทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจของโลกไม่สดใส เพราะเกิดการปรับเปลี่ยนเชิงนโยบายของสหรัฐส่งผลต่อการจัดระเบียบโลกใหม่ ทำให้การเมืองและเศรษฐกิจไม่สามารถหาจุดสมดุลใหม่ได้ โดยเฉพาะการค้าโลกที่เคยเติบโตต่อเนื่องที่ยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประเทศกำลังพัฒนาต้องได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ส่งผลให้หลายประเทศต้องดิ้นรน เพื่อรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้
นายสมคิดกล่าวว่า “ต้องขอชื่นชมวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้นำจีนทุกรุ่น พรรคคอมมิวนิสต์จีน และความทุ่มเทของชาวจีนทั้งมวลในการพลิกฟื้นประเทศจีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ พิธีเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่กรุงปักกิ่งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเป็นที่ตื่นตาตื่นใจต่อชาวโลกและสะท้อนถึง “จีนในยุคใหม่” ได้อย่างแท้จริง”
สำหรับวิกฤตที่เกิดขึ้นยังมีโอกาสใหม่ให้กับกลุ่มประเทศในเอเชีย ที่เริ่มเห็นถึงจุดอ่อนและความเปราะบางของแต่ประเทศ และเริ่มจริงจังกับการปฏิรูป เพื่อสร้างความเข้มแข็งรองรับสถานการณ์ใหม่ รวมทั้งเห็นความร่วมมือของกลุ่มประเทศในภูมิภาค กับการผลักดันหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค RCEP ที่กำลังจะมีการประชุมผู้นำอาเซียนที่ประเทศไทยในต้นเดือน พ.ย. มั่นใจว่าจะได้ข้อสรุปได้เร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน ภูมิภาคอาเซียนที่เป็นทั้งตลาดและการผลิตที่สำคัญของผลผลิตแทบทุกประเภทจากเอเชีย และกำลังจะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงที่สำคัญของกลุ่ม RCEP รวมถึงการขับเคลื่อน GBA ของจีน กำลังเป็นประตูแห่งความเชื่อมโยงที่สำคัญ หากไทยเชื่อมต่อเข้ากับโครงการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ได้ จะเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมและศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของอนุภูมิภาคแห่งนี้ในอนาคต
นายสมคิดกล่าวอีกว่า “ในเชิงยุทธศาสตร์ GBA กำลังเป็นประตูแห่งความเชื่อมโยงที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ Belt and road ก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นรูปธรรม GBA ในสายตาของผมนั้น มาพร้อมกับบทบาทสำคัญใน 2 นัยยะด้านหนึ่งเพื่อการก้าวสู่การเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และนวตกรรมของโลก เป็นเบ้าหลอมแห่งการสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ทรงพลังระดับ unicorn อีกทั้งเป็นศูนย์กลางแห่งภาคการเงินและ logistic ของโลกอย่างแท้จริง ในขณะที่อีกบทบาทหนึ่งคือเป็นหัวหอกอันสำคัญของจีนในการเชื่อมโยงความร่วมมือการพัฒนาในทุกมิติกับโลกภายนอกตามแนวทาง belt and road ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาเซียนและอนุภูมิภาค CLMVT”
“ภูมิรัฐศาสตร์ ไทยมีจุดแข็ง ด้านทำเลที่ตั้งในการสร้างความเชื่อมโยงกับมิตรประเทศ ทั้ง CLMVT และอาเซียน ไทยได้ใช้กรอบความร่วมมือระดับอนุภูมิภาค กำหนดแผนระยะยาว ทั้งโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง ด้านทรัพยากรมนุษย์ โดยหวังว่าภายในปี 2565 กลุ่ม CLMVT จะก้าวสู่การเป็นอนุภูมิภาคที่รวมกันเป็นหนึ่งทางเศรษฐกิจ และบูรณาการเข้า suply chain ของโลกได้”
