สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา สั่งห้ามมิให้นายโมฮัมเหม็ด อัล เทบี อดีตนักการทูตชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางเข้ามาในสหรัฐ เนื่องจากนักการทูตรายนี้เคยดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ประจำสถานกงสุลซาอุฯ ณ นครอิสตันบูล ในช่วงเวลาที่นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุฯ ถูกสังหารภายในสถานกงสุลดังกล่าว
ในแถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า การสังหารคาช็อกกีเป็นการกระทำอันชั่วร้าย และเป็นอาชกรรมซึ่งไม่สามารถยอมรับได้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังได้ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเป็นรายบุคคลต่อ “ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน” อีกด้วย โดยบุคคลเหล่านี้มาจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น เมียนมา ปากีสถาน ลิเบีย สโลวะเกีย เซาท์ซูดาน คองโก และรัสเซีย รวมถึงชาวซาอุดีฯ อีก 2 รายก็ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศสหรัฐด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวฝีปากกล้าชาวซาอุฯ ผู้ถือสัญชาติอเมริกันมักจะวิจารณ์ “เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน” มกุฏราชกุมารแห่งซาอุฯ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้การฆาตกรรมนักข่าวรายนี้ในสถานกงสุลซาอุฯ ณ นครอิสตันบูลเมื่อปี 2018 สร้างความไม่พอใจไปทั่วโลก
สำนักข่าวกรองกลางแห่งสหรัฐรวมถึงรัฐบาลตะวันตกอีกหลายประเทศเชื่อว่า เจ้าชายบิน ซาลมานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งทางการซาอุฯ ได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ทางการซาอุฯ ได้ดำเนินการไต่สวนแบบลับกับผู้ต้องสงสัยชาวซาอุฯ 11 ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยข้องกับกรณีนี้
