สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานความคืบหน้าสถานการณ์สงครามกลางเมืองซีเรีย ระบุว่ารัสเซียและตุรกีซึ่งเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายในซีเรียได้ตกลงหยุดยิง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (6 มี.ค. 2020) จากสถานการณ์ความขัดแย้งปะทุขึ้นภายหลังกองกำลังรัฐบาลซีเรียโจมตีเมืองอิดลิบซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายกบฏ
โดยภายหลังการหารือ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า “ตนหวังว่าข้อตกลงหยุดยิงนี้จะช่วยยุติวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นที่เมืองอิดลิบ” ขณะที่ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ระบุว่า “ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันเพื่อหาทางช่วยเหลือชาวซีเรียอย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตามตุรกีพร้อมตอบโต้ทุกรูปแบบหากกองทัพของรัฐบาลซีเรียโจมตีด้วยกำลังทหาร”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- NETA X ขายมิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
ทั้งนี้ ปฏิบัติการทางการทหารล่าสุดของรัฐบาลซีเรียซึ่งได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากรัสเซียส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนเสียชีวิต ขณะที่อีกนับล้านชีวิตจำเป็นต้องลี้ภัยสงคราม ซึ่งทางสหประชาชาติกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นวิกฤตทางด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามรายงานชี้ว่าข้อตกลงหยุดยิงนี้สามารถถูกฉีกทิ้งได้ตลอดเวลา ดังเช่นข้อตกลงอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ โดยก่อนการหารือครั้งนี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ทางตุรกีได้เพิ่มกำลังทหารในเมืองอิดลิบ ขณะที่ฝ่ายรัสเซียก็เพิ่มกำลังทั้งทางทะเลและทางอากาศ เช่นกัน