ติดลบ! ราคาน้ำมันดิ่งหนักรอบ 30 ปี WTI ปิดตลาด -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานว่า ราคาสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าอ้างอิงของสหรัฐฯ West Texas Intermediate (WTI) เดือน พ.ค.2563 ที่จะหมดอายุในวันนี้ ราคาดิ่งจาก 17.69 ไปที่ระดับ 7.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-54.89%) ต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี นับตั้งแต่ ปี 2529

อีกทั้ง Spread ราคาระหว่างซีรี่ย์ พ.ค. กับ มิ.ย. 2563 ยังกว้างที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย เหตุจากความกังวลเรื่องการใช้น้ำมันที่ลดลงเนื่องจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทั่วโลก แม้ว่า OPEC และพันธมิตรจะมีข้อตกลงครั้งใหญ่ในการลดกำลังการผลิตเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่เพียงพอต่อการลด Supply ของน้ำมันทั้งโลกในวิกฤตครั้งนี้

ต่อมาราคาน้ำมันยังดิ่งต่อ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI เดือน พ.ค. 2563 ล่าสุดราคาลงไปแตะ 2.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ติดลบกว่า 80%

ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ราคาน้ำมันโลกปรับตัวติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ WTI สัญญาแรก (BBG: CL1) เดือน พ.ค. ที่จะครบกำหนดในวันที่ 21 เม.ย. 63 ล่าสุดปรับลดลงกว่า 300% dod ไปติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ภายหลังที่ทาง Chicago Mercantile Exchange (CME) กล่าวว่าเป็นไปได้ที่จะมีการซื้อขายที่ราคาติดลบ โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ -40.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนปิดที่ระดับ -37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงท่ามกลางปริมาณธุรกรรมที่ค่อนข้างบาง (ปริมาณธุรกรรมสัญญาเดือน พ.ค. อยู่ที่ 126,400 เทียบกับสัญญาเดือน มิ.ย. ที่ใกล้ระดับ 800,000 สัญญา) จากอุปสงค์และอุปทานในตลาดซื้อขายจริงของน้ำมันดิบที่ไม่สมดุลกันโดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่อุปสงค์ปรับลดอย่างรุนแรงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หดตัวลงมากในช่วงวิกฤต COVID-19

Advertisment

ในขณะที่อุปทานในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูง จน capacity ในสหรัฐฯ สำหรับการจัดเก็บน้ำมันดิบทั้งที่เมือง Cushing รัฐ Oklahoma ซึ่งเป็น delivery point ของ WTI และที่กลั่นแล้ว (refined oil) กำลังจะเกินขีดความสามารถ (นักวิเคราะห์คาดว่าจะเต็มในเดือน พ.ค.) ทำให้ผู้ซื้อโดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันที่มีข้อจำกัดด้านการจัดเก็บน้ำมันมากกว่า ไม่ต้องการรับมอบน้ำมันดิบและ roll over สัญญาออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการรับส่งมอบที่มีต้นทุนในการจัดเก็บ สะท้อนได้จากราคาสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI สัญญาแรก (1st contract) ที่ลดต่ำกว่าสัญญาซื้อขายเดือนหลังๆ (2nd contract และสัญญาที่ไกลออกไป) มากเป็นประวัติการณ์ (ภาวะ contango มากที่สุดเป็นประวัติการณ์)

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตีความได้ว่าราคาน้ำมันดิบในอนาคตที่สะท้อนความคาดการณ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลกอาจไม่ได้แย่เท่ากับที่สะท้อนด้วยราคาปัจจุบัน เช่นเดียวกับการตีความผ่านราคาสัญญาแรกของน้ำมันดิบ Brent (1st contract) ที่วันนี้ไม่ได้ปรับลดลงรุนแรงเท่าราคา WTI เช่นกัน

ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันในแถบยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลางที่มีความยืดหยุ่นในการขนส่งน้ำมันจากแหล่งผลิตไปยังตลาดได้มากกว่าทั้งทางภาคพื้นดิน หรือทางทะเล สวนทางกับผู้ผลิตและผู้กลั่นน้ำมันในหลายแห่งของสหรัฐฯ ที่หลายที่เป็น landlocked อาทิ ในแถบ Midwest ที่ต้องพึ่งพาการขนส่งตามท่อหรือทางรถไฟไปยังตลาด และมีข้อจำกัดในการหา storage เพิ่ม โดยวันนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 7.59% มาปิดที่ 25.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันดิบ WTI กับ Brent สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ด้าน บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบปิดวานนี้ปรับตัวลงทุกตลาด โดยเฉพาะดัชนี้อ้างอิงในสหรัฐฯ WTI ที่ปรับตัวลดลงมีนัยยะอยู่ที่ -37.6 เหรียญฯต่อบาร์เรล หรือลดลง -306% dod เพราะเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของราคาน้ำมัน Future เดือน พ.ค. จึงต้องมีการปิด position ซึ่งอาจมีการเก็งกำไรก่อนหน้ามากเกินไป ทำให้มีความผันผวนสูง ซึ่งเป็นลักษณะของการซื้อขาย Future ทั่วไป

Advertisment

ดังนั้นถือเป็น sentiment เชิงลบช่วงสั้นต่อกลุ่มน้ำมัน เพราะเป็นการปรับตัวลดลงแรงเป็นประวัติการณ์ แต่ทั้งนี้ในวันนี้การซื้อขายน้ำมันดิบอ้างอิง WTI ก็จะเปลี่ยนเป็นการซื้อขายด้วยสัญญาใหม่ของเดือน มิ.ย. ซึ่งราคาล่าสุดเช้านี้ก็กลับมาอยู่ในกรอบปกติ 21-22 เหรียญฯต่อบาร์เรล อีกทั้งหากพิจารณาราคาปิดน้ำมันดิบอ้างอิงตลาดอื่นๆ อาทิ Brent และ Dubai พบว่าการปรับตัวลดลงยังคงอยู่ในกรอบตามปกติ

โดยเบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงอิงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2563 ที่ 40 เหรียญฯต่อบาร์เรล (ภายใต้ YTD ที่ 47.5 เหรียญฯ) แต่หากมีการปรับลดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบลดลงทุก 5 เหรียญฯต่อบาร์เรล ในระยะยาว จะกระทบมูลค่าพื้นฐาน PTTEP และ PTT ราว 10-12 และ 2-3 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในหุ้นกลุ่มน้ำมันทั้ง PTT และ PTTEP นั้น ในภาพระยะยาวยังคงแนะนำซื้อ ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 42 และ 100 บาทต่อหุ้น แต่ในช่วงสั้นนั้นราคาหุ้นอาจยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงจากความต้องการใช้ที่หดตัวอย่างรุนแรง ดังนั้นการเข้าลงทุนอาจต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น หาจังหวะเข้าลงทุนเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว

ช่วงเช้า 07.46 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ดีดตัวขึ้น 38.19 ดอลลาร์ หรือ 101.49% แตะที่ระดับ 56 เซนต์/บาร์เรล