การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะประเทศที่ไม่มีมาตรการรับมือที่ดี ขณะที่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้อานิสงส์จากสถานกาณ์โรคระบาดจนทำให้สินทรัพย์ถือครองอยู่มีมูลค่าสูงขึ้นและกลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่
บีบีซี รายงานผลสำรวจล่าสุดของ “เครดิตสวิส” (Credit Suisse) ธนาคารเพื่อการลงทุนระดับโลก พบว่าในปี 2020 ที่โควิด-19 ระบาด ผู้ที่มีสินทรัพย์มูลค่ารวม 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป หรือเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ จำนวนเพิ่มขึ้นถึง 5.2 ล้านคน ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนผู้ที่มีสินทรัพย์เกิน 1 ล้านดอลลาร์ ราว 56.1 ล้านคนทั่วโลก
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
รายงานระบุว่า การลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการช่วยเหลือเยียวยาทางเศรษฐกิจของภาครัฐ พยุงให้ความมั่งคั่งของประชากรคงที่ท่ามกลางโรคระบาด และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ มิ.ย. 2020 เป็นต้นมา จากภาวะตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวและราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความมั่งคั่งทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7.4%
ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ราคาบ้านพักอาศัยในสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 350,300 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 23.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามข้อมูลของสมาคมอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐ
ขณะที่ราคาบ้านพักอาศัยในเนเธอร์แลนด์เดือน พ.ค.ก็สูงขึ้นเฉลี่ย 12.9% จากปีที่ผ่านมา เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001 ตามข้อมูลสำนักงานสถิติดัตช์ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นสวีเดน เดนมาร์ก และเยอรมนี ที่ราคาบ้านพักอาศัยสูงขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยธนาคารกลางยุโรประบุว่า ราคาบ้านพักอาศัยในเขตยูโรโซนในไตรมาส 4/2020 เพิ่มขึ้นถึง 5.8% จากปี 2019
อย่างไรก็ตาม “อดัม สเลเตอร์” นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทวิจัยเศรษฐกิจออกซฟอร์ด อีโคโนมิกส์ มองว่าราคาที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งไม่ใช่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง ดังนั้นหลายประเทศอาจต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ “ผลลัพธ์เช่นนี้และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แนวโน้มที่ดีสำหรับธนาคารกลาง”
เครดิตสวิสยังระบุว่า การสำรวจจำนวนผู้ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปครั้งนี้ ได้พิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์จากการลงทุนและไม่ใช่สินทรัพย์ลงทุนอย่าง บ้านพักอาศัยที่เจ้าของสินทรัพย์อยู่อาศัยจริง ส่งผลให้จำนวนเศรษฐีหน้าใหม่ตามการสำรวจของเครดิตสวิสอาจสูงกว่าผลสำรวจขององค์กรอื่น
“แอนโทนี ชอร์ร็อกส์” นักเศรษฐศาสตร์ที่มีส่วนร่วมในการสำรวจระบุว่า หากไม่นำมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่อยู่อาศัยมาพิจารณา อาจพบว่าความมั่งคั่งของประชากรทั่วโลกลดลงในภาพรวม
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาที่อยู่อาศัยในช่วงวิกฤตโรคระบาด แสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน เนื่องจากการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์ในกลุ่มผู้ที่มีความมั่งคั่งระดับกลางถึงระดับล่างที่ไม่ได้ถือครองอสังหาริมทรัพย์จะหยุดนิ่งและถดถอยในหลายกรณี ทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดรุนแรงกว่า
