รังวัดโฉนด : ครม.เปิดทางเจ้าหน้าที่สอบที่ดินข้างเคียงจากฐานข้อมูล

รังวัดที่ดิน

ครม.ไฟเขียว หลักการแก้กฎกระทรวงแจ้งผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงในการรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน อนุญาตเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่อยู่ได้จากระบบสารสนเทศ จากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการปรับปรุงกฎกระทรวงการติดต่อหรือการแจ้งผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงในการรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดิน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. กำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวงฉบับที่ 31 (พ.ศ. 2521) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497

2. กำหนดให้การติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงให้มาระวังแนวเขตให้แจ้งโดยส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาตามที่อยู่ที่แจ้งไว้เป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และตามที่อยู่ที่ตรวจสอบได้จากระบบสารสนเทศฐานข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร จากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง กรมการปกครอง ส่วนกรณีที่เจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นนิติบุคคลให้ตรวจสอบจากระบบเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

3. ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ติดต่อโดยวิธีปิดประกาศเพื่อให้มาลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัดไว้ในที่เปิดเผย ณ สำนักงานที่ดินและที่ทำการผู้ใหญ่บ้านซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ และให้ถือว่าผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับทราบหนังสือเมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันปิดประกาศ

Advertisment

4. กรณีที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับการติดต่อให้มาระวังแนวเขตแล้ว แต่ไม่มารับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำเป็นหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้มาลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาอีกครั้งหนึ่ง

5. ในกรณีที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับการติดต่อแล้ว แต่มาแล้วไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกการไม่ยอมลงลายมือชื่อ และจัดทำเป็นหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียงให้มาลงชื่อรับรองแนวเขตหรือคัดค้านการรังวัด โดยส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาหรือตามที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้แจ้งไว้ในวันรังวัดอีกครั้งหนึ่ง

6. กรณีที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินสาขาใดได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการติดต่อหรือส่งหนังสือแจ้งการดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวถือเสมือนเป็นต้นฉบับและให้ถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นั้นได้เข้าสู่ระบบข้อมูลของผู้รับข้อมูล

7. กำหนดให้การติดต่อหรือการแจ้งที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ในวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ดำเนินการต่อไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 31 (พ.ศ. 2521) จนแล้วเสร็จ

Advertisment