อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9 : ในหลวงและพระราชินีเตรียมเสด็จพระราชดำเนินเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์

สำนักพระราชวัง

ที่มาของภาพ, สำนักพระราชวัง

13 ต.ค. 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เวลา 17.00 น. โดยเปิดให้ประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จได้

หลังเสด็จสิ้นพิธี ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน สามารถเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะได้ ในเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

สำหรับผู้ต้องการวางพวงมาลา ต้องแจ้งความประสงค์ทางหมายเลขโทรศัพท์ 092-749-9265 หรือ สามารถลงทะเบียนที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ถนนราชดำเนินนอก ในวันที่ 13 ต.ค. ระหว่างเวลา 13.00-17.00 น. ทั้งนี้ พวงมาลาต้องมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร

การเดินทางสำหรับประชาชน

ขสมก. จะจัดเดินรถอำนวยความสะดวกประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 4 เส้นทางด้วยกัน เพื่อนำประชาชนไปยังจุดคัดกรอง ATK ก่อนเข้าสู่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ดังนี้

รถโดยสารเฉพาะกิจ (จอดรับส่งทุกป้าย) จำนวน 4 เส้นทาง

  • เส้นทางสโมสรกองทัพบก – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – จุดคัดกรอง ATK กรมทางหลวง
  • เส้นทางสนามศุภชลาศัย – กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ – จุดคัดกรอง ATK กรมทางหลวง
  • เส้นทางวงเวียนใหญ่ – จุดคัดกรอง ATK รร.ราชวินิต มัธยม
  • เส้นทางสนามหลวง – จุดคัดกรอง ATK รร.ราชวินิต มัธยม

เมื่อผ่านการตรวจคัดกรอง ATK จุดกรมทางหลวง จะมีรถโดยสารนำสู่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ในส่วนของจุดตรวจ ATK โรงเรียนราชวินิต มัธยม ประชาชนสามารถเดินเข้าสู่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้

รถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการ ท่าต้นทางเที่ยวแรก ตั้งแต่ 08.00 น. ท่าต้นทางเที่ยวสุดท้าย 16.00 น. ท่าปลายทางเที่ยวสุดท้าย 18.00 น. หรือจนกว่าผู้มาร่วมงานหมดจากพื้นที่ รถจะปล่อยจากท่าต้นทางทุก 20 นาที

สำนักพระราชวัง

ที่มาของภาพ, หน่วยราชการในพระองค์

สำหรับประชาชนที่จะโดยสารมาด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถจอดได้ 3 จุดด้วยกัน คือ

  • สโมสรกองทัพบก 200 คัน
  • กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 320 คัน
  • สนามศุภชลาศัย 200 คัน

ทุกจุดจอดรถจะมีรถโดยสารบริการรับและนำส่ง ณ จุดพักคอย

กรมเจ้าท่าจัดบริการเรือข้ามฟากอำนวยความสะดวกประชาชน เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร บริการเรือข้ามฟาก 3 ท่าเรือ ในแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทาง ท่าเรือท่าช้าง – ท่าเรือวัดระฆัง – ท่าเรือวัดอรุณ โดยไม่คิดค่าบริการ เรือออกทุก 15 นาที ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. หรือจนกว่าจะแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ กรมเจ้าท่า ร่วมกับ บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จำกัด จัดบริการเรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry บริการเรือ 2 เส้นทาง ในแม่น้ำเจ้าพระยาโดยไม่คิดค่าบริการ ดังนี้ เส้นทาง ท่าเรือนนทบุรี – ท่าเรือท่าช้าง เรือออก เวลา 08.00 น. และเวลา 09.00 น. เส้นทาง ท่าเรือท่าช้าง – ท่าเรือนนทบุรี เรือออกเวลา 18.00 น. และเวลา 18.30 น.

อัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9

เมื่อ 10 ต.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ในหลวง ร.9 ภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร หรือ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9

POOL

ที่มาของภาพ, POOL

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพระบรมรูปในหลวง รัชกาลที่ 9

  • มีขนาดความสูง 7.41 เมตร หรือขนาด 4 เท่าของพระองค์จริง
  • ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
  • หันพระพักตร์ไปทางพระตำหนักสวนจิตรดา ถนนศรีอยุธยา
  • หล่อด้วยโลหะสำริด
  • ฐานพระบรมรูปตั้งอยู่บนลานรูปไข่ ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สูง 18.7 เมตร
  • แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นผังแปดเหลี่ยม ตามคติพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ อันเป็นสัญลักษณ์เบื้องแรกแห่งการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
  •  ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ทั้ง 8 เหลี่ยมมีแผ่นจารึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อนำพาประเทศชาติอยู่ดีมีสุข อันก่อให้เกิดความผูกพันและความจงรักภักดีที่ประชาชนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเอกลักษณ์สำคัญของไทยที่ไม่มีชาติใดเสมอเหมือน
BBC

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 เมื่อ 5 ธ.ค. 2564

พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถือว่าเป็นหัวใจและศูนย์กลางของอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเมื่อสร้างแล้วเสร็จ ภายในปี 2567 คาดว่าประชาชนจะสามารถมองเห็นอนุสาวรีย์ได้จากถนนรอบนอกพื้นที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งถนนศรีอยุธยา ถนนพระรามที่ 5 และถนนพิษณุโลก

จากสนามม้านางเลิ้ง สู่อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9

สนามม้านางเลิ้งอายุ 102 ปี ปิดตัวลงในปี 2561 ก่อนเข้าสู่กระบวนการแปลงโฉมเป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ของคนกรุงเทพมหานครในนาม “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

เมื่อสร้างแล้วเสร็จ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นี้จะไม่ได้เป็นเพียงสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับป่าและน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสนพระทัยและทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่สนามม้านางเลิ้งเดิม ซึ่งเป็นที่ดินในพระปรมาภิไธย มาเป็นอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เกิดจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงตั้งพระราชหฤทัยเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

……..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว