อิแทวอน : ผู้อยู่ในเหตุฝูงชนเบียดกันเสียชีวิตในเกาหลีใต้เล่าเหตุการณ์ถูกขอให้ช่วยทำซีพีอาร์ หลังคนจำนวนมากหมดสติ

  • ฟ่าน หวัง & ลอเรนซ์ ปีเตอร์
  • บีบีซี นิวส์ สิงคโปร์
Survivors of crush in Seoul, 29 Oct 22

ที่มาของภาพ, Reuters

ผู้ที่ออกไปสังสรรค์เล่าว่า พวกเขาถูกขอให้ช่วยเหลือเหยื่อให้มีสติกลับคืนมาด้วยการทำซีพีอาร์ (CPR ย่อมาจาก cardiopulmonary resuscitation คือการช่วยเหลือผู้ที่กำลังจะหยุดหายใจ หรือหัวใจกำลังจะหยุดเต้น ให้กลับมาหายใจ) แม้ว่าพวกเขาไม่เคยทำมาก่อน

อานา วัย 24 ปี จากสเปน และเมลิสซา เพื่อนของเธอจากเยอรมนี วัย 19 ปี อยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับจุดที่เกิดเหตุฝูงชนเบียดกันและพวกเธอกำลังพยายามจะออกไปจากจุดนั้นช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ตอนนั้นพวกเธอเห็นรถพยาบาลหลายคันกำลังวิ่งเข้ามา และตำรวจกำลังวิ่งอยู่ทั่วบริเวณขอให้ผู้คนขยับออกไป เพื่อเตรียมที่ว่างสำหรับนำผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บออกมา

“มีคน (บาดเจ็บ) จำนวนมากจนพวกเขาจำเป็นต้องขอให้คนปกติช่วยทำซีพีอาร์ ดังนั้นทุกคนก็เริ่มเข้าไปช่วยกัน เรามีเพื่อนสองคนที่รู้วิธีการทำซีพีอาร์ และพวกเขาก็เข้าไปช่วย” อานากล่าวกับบีบีซี

Advertisment

“3 นาทีต่อมา หรืออาจจะนานกว่านั้น พวกเขาก็กลับมา มีท่าทางหวาดผวาและร้องไห้ เพราะพวกเขาพยายามจะช่วยชีวิตคน 5-6 คน แต่ทุกคนต่างเสียชีวิตในมือเพื่อนของฉัน”

“ดังนั้น ฉันก็เลยต้องไปและต้องช่วยหญิงสาว 2 คน ฉันไม่รู้ว่า ทำซีพีอาร์อย่างไร แต่ฉันก็ทำตามคำแนะนำของคนที่อยู่ตรงนั้น”

“พวกเขาบอกวิธีการจับศีรษะและเปิดปากผู้ป่วย และอะไรแบบนั้น ฉันกำลังพยายามจะช่วยแต่พวกเขาทั้งสองคนก็เสียชีวิตเช่นกัน ฉันต้องบอกว่า ทุกคนที่พวกเขานำตัวมาเพื่อให้ทำซีพีอาร์นั้น ส่วนใหญ่ไม่หายใจแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงช่วยอะไรไม่ได้”

“เราไม่อาจทำอะไรได้ นั้นคือสิ่งที่เจ็บปวด”

Advertisment

วัยรุ่นและผู้ใหญ่ในวัย 20-29 ปี หลายพันคนพากันแต่งชุดแฟนซีไปฉลองเทศกาลฮาโลวีนในย่านอิแทวอน พวกเขารู้สึกตื่นเต้นที่ในที่สุดก็ได้ออกมาสนุกสนานกัน หลังจากที่มีมาตรการจำกัดการระบาดของโควิดในเกาหลีใต้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

แต่คลิปวิดีโอของหายนะครั้งนี้เผยให้เห็นความโหดร้ายในชีวิตจริง โดยผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหมือนกับภาพยนตร์สงคราม มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คน และบาดเจ็บมากกว่า 80 คน

ผู้ชาย 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์เบียดกันเสียชีวิตในกรุงโซล

ที่มาของภาพ, Reuters

ราฟาเอล ราชิด ผู้สื่อข่าวอิสระ กล่าวกับบีบีซีว่า “มีผู้คนหลายหมื่นคน มากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น มีคนมากจนกระทั่งเราเบียดกันบนทางเท้า”

คลิปหลายคลิปเผยให้เห็นฝูงชนแออัดกัน จนแทบจะไม่สามารถขยับไปไหนได้ มีคนอยู่ 2-3 คนที่สามารถปีนออกมาสู่จุดที่ปลอดภัยได้ ขณะที่คนที่อยู่ใกล้เคียงจำนวนมากให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่การแพทย์ในการทำซีพีอาร์ มีการนำศพของเหยื่อบรรจุไว้ในถุงบรรจุศพและวางเรียงต่อกันยาวบนทางเท้า

ตรอกทางเดินที่ลาดชันกลายเป็นกับดักมรณะ ฝูงชนไถลไปข้างหน้า และมีคนที่อยู่ด้านหน้าล้มลง และถูกเหยียบโดยคนที่อยู่ด้านหลัง

คลิปวิดีโอบางคลิปทางทวิตเตอร์เผยให้เห็นว่า ผู้ช่วยชีวิตหลายคนพยายามที่จะลากผู้คนออกมาจากฝูงชนที่เบียดเสียดกันอยู่

“คนเตี้ยอย่างฉันแทบไม่สามารถหายใจได้เลย” ผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าตามการรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี เธอกล่าวว่า เธอรอดชีวิตเพราะเธออยู่ที่ริมของตรอก ขณะ “บรรดาคนที่อยู่ตรงกลางเจอหนักที่สุด”

ราฟาเอล ราชิด กล่าวว่า “ไม่มีใครเข้าใจจริง ๆ ว่า กำลังเกิดอะไรขึ้น” และตำรวจบางส่วน “ยืนอยู่บนหลังคารถตำรวจพยายามบอกให้ผู้คนออกจากพื้นที่นี้ให้เร็วที่สุด”

นายแพทย์ลี บอมซุก เจ้าหน้าที่การแพทย์ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์วายทีเอ็น (YTN) ของเกาหลีใต้ว่า เขาได้พยายามที่จะช่วยชีวิตเหยื่อ 2-3 คนด้วยการทำซีพีอาร์ แต่ “ไม่นานจำนวนคนก็พุ่งสูงขึ้น จนมากกว่าจำนวนผู้ที่ช่วยปฐมพยาบาลที่จุดเกิดเหตุ” เขาบอกด้วยว่า “ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจำนวนมากได้เข้ามาช่วยเราทำซีพีอาร์”

เขากล่าวว่า “ใบหน้าของเหยื่อจำนวนมากซีดเผือด ผมไม่สามารถจับชีพจรหรือลมหายใจของพวกเขาได้ และหลายคนมีเลือดกำเดาไหล”

ภาพจากคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นฝูงชนแออัดกันอยู่ที่ย่านอิแทวอนในกรุงโซลของเกาหลีใต้

ที่มาของภาพ, Linda @Dabaklusa

พัก จองฮุน วัย 21 ปี กล่าวกับรอยเตอร์ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น “ไม่สามารถควบคุมได้เลย”

ส่วนมุน จูยอง วัย 21 ปีเช่นเดียวกัน กล่าวว่า “มีคนจำนวนมากและเบียดเสียดกันเกินไป”

“ผมรู้ว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานหนัก แต่ผมคงต้องบอกว่า ขาดการเตรียมพร้อม”

ลี ซูมี ผู้พักอาศัยในย่านอิแทวอนวัย 53 ปี กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ในที่สุดคนหนุ่มสาวเหล่านั้นที่ถูกเรียกว่า ‘คนยุคโควิด’ ก็สามารถฉลองฮาโลวีนเป็นเทศกาลแรก”

“ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า เทศกาลนี้จะกลายเป็นความหายนะ”

……

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว